ระนองสั่งซีลสุดเข้มตลอดแนวชายแดนสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ระนอง- นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จว.ระนอง, พันโทสิทธิชัย บำรุงเขต เสนาธิการ ฉก.ร.25 พบผู้นำชุมชนที่อำเภอละอุ่น เพื่อร่วมหารือมาตรการป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 มาชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับผู้นำชุมชนในหมู่บ้านรับทราบถึงสถานการณ์ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศเมียนมา
พร้อมวางมาตรการคุมเข้มปิดด่านพรมแดน เส้นทางเข้า-ออกด่านถาวรและจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีนายภักดี ศรีศาสนานนท์ นายอำเภอละอุ่น ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อสม.และแพทย์ประจำตำบล ให้การต้อนรับพร้อมรับทราบนโยบายและมาตรการการเฝ้าระวังและการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศเมียนมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในประเทศเมียนมาจนทำให้ต้องมีการปิดโรงเรียนทั้งประเทศ ซึ่งอำเภอละอุ่นมีพื้นที่ด่านชายแดนติดต่อกับประเทศเมียนมา หากมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเล็ดลอดเดินทางผ่านเข้ามาในพื้นที่อำเภอละอุ่น ก็อาจจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปสู่ประชาชนทั้งประเทศได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 จากประเทศเมียนมา
จึงขอให้ผู้นำชุมชนอำเภอละอุ่น ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 กับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยเคร่งครัดและบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดและเฝ้าระวังป้องกันการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ และห้ามไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติตลอดชายแดน โดยช่วยเป็นเบาะแสให้เจ้าหน้าที่
หากพบเห็นบุคคลแปลกหน้าให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบทันที พร้อมให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยเน้นย้ำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการตามข้อสั่งการข้างต้นโดยเคร่งครัด และผวจ.ระนองกล่าวเน้นย้ำว่าหากพบผู้นำท้องถิ่น/ท้องที่ ในชุมชนมีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
