ระนอง ขนเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนสกัดโควิด-19 ปิดทุกช่องทางชายแดน
ระนอง- จังหวัดระนอง จัดชุดลาดตระเวนเข้มชายแดนไทย–เมียนมา(ระนอง-เกาะสอง) ปิดช่องทางเข้าออกทั้ง 3 ช่องทาง ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบกป้องกันโควิด -19 จากประเทศเพื่อนบ้าน
โดยกำลังพลจัดชุดลาดตระเวนทางอากาศ ทางทะเล และทางบกตรวจเข้มตลอดแนวชายแดนเพื่อป้องกันแรงงานเมียนมาหรือขบวนการขนแรงงานหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติโดยไม่ผ่านการตรวจโควิด -19
10 ก.ย.2563 นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย น.อ.ภริศวย์ วงษ์เพ็ญศรี หัวหน้าศูนย์ประสานงานประมงชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง และนักบินปฏิบัติการจากกองทัพเรือภาคที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ตำรวจ ตชด.ที่ 415
ร่วมจัดกำลังพลลาดตระเวนอย่างเข้มข้นใน 3 ช่องทาง ได้แก่ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ตลอดแนวชายแดน(ระนอง-เกาะสอง) โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอกระบุรีซึ่งมีแนวพรมแดนทางบกที่ติดต่อกัน เพื่อป้องกันแรงงานเมียนมาหรือขบวนการขนแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติโดยไม่ผ่านการตรวจโควิด -19
ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเมียนมา ปัจจุบันยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่จะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดระนองตลอดแนวชายแดน ตลอดจนกำหนดพื้นที่อ่อนไหวที่อาจจะมีการเล็ดลอดของแรงงานชาวเมียนมาได้
ทางกองทัพเรือภาค 3 จึงได้แบ่งการลาดตระเวนเฝ้าระวังช่องทางทางทะเลอันดามัน สกัดกั้นออกเป็น 3 ชั้น คือชั้นที่ 1 ใช้เรือเร็วยางตรวจการตลอดลำน้ำกระบุรี พร้อมจัดกำลังพลชุดออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน ในส่วนชั้นที่ 2 ใช้เรือตรวจการณ์ขนาดกลางจอดลอยลำอยู่บริเวณกึ่งกลางระหว่างปากแม่น้ำกระบุรีกับทะเลอันดามัน
ซึ่งเป็นจุดที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำพาชาวเมียนมาเข้าพื้นที่ โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่จะตรวจสอบยากกว่าในช่วงเวลากลางวัน แต่บนเรือตรวจการณ์มีเครื่องตรวจจับค้นหาวัตถุจากเรด้าห์ ส่วนที่ 3 ใช้เรือรบขนาดใหญ่ออกลาดตระเวนกลางทะเลอันดามันที่ใกล้กับน่านน้ำประเทศเมียนมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า วันนี้ได้มีการใช้เฮลิค็อปเตอร์ตรวจการทางอากาศโดยการบูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายในการเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดระนอง โดยเฉพาะชายแดนด้าน อ.กระบุรี พร้อมขอความร่วมมือในแต่ละหมู่บ้านตลอดแนวชายแดนอำเภอกระบุรี ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังให้กับทางเจ้าหน้าที่ หากพบคนแปลกหน้าเข้ามาในชุมชน
พร้อมมีการวางมาตรการร่วมกันเพื่อเพิ่มกำลังในการออกลาดตระเวน การกำหนดพื้นที่อ่อนไหวที่อาจจะมีการเด็ดลอดเข้ามาของแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการป้องกันการแพร่ระบาดตามแนวชายแดนนั้นสำคัญมากเพราะหากมีผู้ติดเชื้อหลุดลอดเข้ามาได้เพียง 1 คน อาจส่งผลกระทบและแพร่เชื้อเป็นวงกว้างได้ จึงต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายทั้งภาคประชาชน และทางฝ่ายปกครองในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซ้ำในประเทศไทย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: