ผบ.ทบ.ชูภูเก็ตโมเดล คลายล็อกค้าชายแดนระนอง เคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนระนองฝ่าวิกฤติโควิด-19
ผบ.ทบ.ชูภูเก็ตโมเดล เคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนระนองฝ่าวิกฤติโควิด-19 ผบ.ทบ. เผยขณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจชายแดนระนอง มั่นใจมาตรการคุมโควิด-19 เตรียมเสนอข้อมูลรัฐบาล พร้อมจัดเป็นพื้นที่เหมือนภูเก็ตโมเดล เพื่อให้วิถีชีวิตและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา เดินต่อไปได้
พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางลงพื้นที่ จ.ระนอง ตรวจเยี่ยมการทำงานของกำลังเทพสตรี (หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25) และตำรวจตระเวนชายแดน ชุดเฝ้าตรวจตระเวนชายแดน 4105 จากนั้นนั่งเรือตรวจภูมิประเทศ 3 เกาะคือ เกาะหลาม เกาะคัน และเกาะขี้นก รวมถึงจุดตรวจดูเกาะสะระนีย์ หรือเกาะผี ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และมาตรการป้องกันโควิด-19
พลเอก ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในช่วงระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นรวดเร็ว ซึ่งนโยบายรัฐบาลคือไม่ให้คนข้ามเขตแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันตก โดย จ.ระนอง มีชายแดนติดกับเพื่อนบ้านทั้งทางบกและทางทะเล คนสองฝั่งไปมาหาสู่กันใช้ชีวิตประจำวันค้าขาย รวมทั้งการท่องเที่ยว และฝั่งตรงข้าม จ.ระนอง คือ จ.เกาะสอง ของเมียนมา ซึ่งข้อมูลพบว่าภายในหนึ่งวันมีเรือข้ามไปมา 160 เที่ยว ประมาณ 500-700 คน แต่ปัจจุบันเหลือประมาณ 30 เที่ยว ซึ่งเป็นเรือสินค้า แต่การข้ามแดนของคนยังไม่เปิด วันนี้ตนได้มาดูวิถีชีวิตคนสองฝั่งว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ร่วมกันได้ เพราะต้องพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งภารกิจของกองกำลังเทพสตรี ดูแลปัญหาเรื่องภัยคุกคามด้านความมั่นคงเป็นหลัก โดยด้านนี้ไม่มีปัญหารุกล้ำแนวชายแดน เพราะสามารถพูดคุยกันได้ จะมีแค่ปัญหายาเสพติด หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย
พลเอก ณรงค์พันธ์ ยังบอกด้วยว่า ในอนาคตถ้ายังอยู่แบบนี้ ฝั่งเมียนมาไม่สามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ ฝั่งไทยก็ต้องป้องกันเต็มที่ไม่ให้ลุกล้ำเข้าประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่จะเกิดผลกระทบ ระนองเป็นจังหวัดที่ดีจังหวัดหนึ่ง และไม่มีปัญหาโควิด ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องพิจารณาว่า เมื่อสถานการณ์ในเกาะสองติดเชื้อจำนวนน้อย (ตรวจพบ 3 คน) และทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลในพื้นที่ ตนก็เห็นว่าถ้าใช้จังหวัดนี้เหมือนภูเก็ต เปิดให้มีการผ่อนคลายได้ในระดับหนึ่ง จะทำให้วิถีชีวิตคนสองประเทศดีขึ้น และหากดูจากข้อมูลโควิด คิดว่าน่าจะดูแลกันได้ แต่ต้องพิจารณาว่าจะผ่อนคลายได้แค่ไหน
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ส่วนฝ่ายความมั่นคง ไม่สามารถอุดช่องโหว่ตามช่องทางต่างๆได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่ช่องทางที่จะเข้ามาได้ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นเส้นทางที่มีรถยนต์ขนส่ง หรือมีทางเดิน ซี่งถ้าเป็นทางธรรรมชาติก็ลำบาก เพราะไกลจากเส้นทางหลัก แต่ในเส้นทางประเทศเราเดินทางสะดวก ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่สะดวกมากขึ้นและสามารถป้องกันได้ แม้แต่ทางน้ำ และยังมีเครื่องมือที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยเหนือ ทำให้การดูแลป้องกันสมบูรณ์มากที่สุด
เมื่อถามว่า ศบค.ทบ. จะเสนอข้อมูล คลายล็อก จ.ระนอง ให้รัฐบาลต่อไปใช่หรือไม่ พลเอก ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า จะรวบรวมข้อมูลส่งไปให้รัฐบาลพิจารณาเหมือนกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ถ้ามีความรุนแรงเราก็สั่งปิดด่าน เมื่อสถานการณ์เบาบางลงก็เปิดด่านให้สามารถค้าขายและผ่านไปมาได้
นางวณิดา อรุโณทัย พาณิชย์จังหวัดระนอง เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดระนอง สรุปภาวะการค้าชายแดนไทย – เมียนมา ด้านจังหวัดระนองประจำเดือน กันยายน 2563 มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 1,311.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 421.51 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47.39 (สิงหาคม 2563 มีมูลค่าการค้ารวม 889.54 ล้านบาท) และเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ของปีก่อนลดลง 105.11 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.42 (กันยายน 2562 มีมูลค่าการค้ารวม 1,416.16 ล้านบาท) มูลค่าการส่งออก เดือนกันยายน 2563 มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 647.43 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 97.47 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.08 (สิงหาคม 2563 มีมูลค่า 744.90 ล้านบาท)
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งขณะนี้อนุญาตให้มีการนำเข้า – ส่งออกสินค้าและสินค้าผ่านแดน โดยอนุญาตให้มีคนประจำพาหนะประจำเรือสินค้าตามประเภทที่ได้รับอนุญาต และต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากพนักงานควบคุมโรคติดต่อแล้ว เท่านั้น
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 ในประเทศไทย ส่วนการเดินเรือ การขนส่งสินค้า ยังทำได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อให้ทั้งความมั่นคง และเศรษฐกิจ เป็นคู่ขนานที่เดินไปด้วยกันได้ เพียงแต่อาจจะจำกัดไม่มีการอนุญาตให้ลูกเรือขึ้นมายังท่าเรือ หรือบนฝั่งโดยเด็ดขาด พร้อมจำกัดเวลาในการเข้า-ออกที่ชัดเจน การมีมีข้อจำกัดในการดำเนินการก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้การค้าลดลง
