5 ปีฟื้นฟูสำเร็จ ราชินีไม้น้ำ “พลับพลึงธาร”ระนองคืนชีพ พร้อมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง
ระนอง—นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีว่าหลังจากที่หลายภาคส่วนพยายามที่หาทางฟื้นฟูพลับพลึงธาร ราชินีแห่งสายน้ำในจังหวัดระนองพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธ์ กลับมาฟื้นฟูได้อีกครั้ง บริเวณคลองนาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 80 กม. ซึ่งเคยพบเพียงแห่งเดียวในประเทศที่มีการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ชนิดนี้ แต่ปรากฏว่าผลกระทบจากการขุดลอกคลองเพื่อป้องกันอุทกภัยได้ทำลายแหล่งอาศัยของพลับพลึงธารจนเสียหายอย่าง จนต่อมาหลายฝ่ายพยายามที่จะฟื้นฟูใหม่ ทั้งการเพาะพันธ์ต้นกล้า การขยายพันธ์ และการรักษาระบบนิเวศน์ลำคลองที่อาศัย
ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดระนอง ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.ชุมพร จัดกิจกรรมปั่นท่องเที่ยว CSR ตามล่าหาพลับพลึงธาร เพื่อเป็นกิจกรรมสำรวจหาพลับพลึงธารในเขตพื้นที่จังหวัดระนองและแนวรอยต่อจังหวัดชุมพรเพื่อที่จะพัฒนา และขยายพันธุ์พลับพลึงธารให้สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้พลับพลึงธารที่เคยพบเป็นจำนวนมากใน จ.ระนองถูกทำลายโดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนต้องปิดการท่องเที่ยวเทศกาลล่องแพแลพลับพลึงธาร มานานหลายปี
จากการจัดกิจกรรมสำรวจเส้นทางที่เคยพบพลับพลึงธารจาก อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ไปยัง อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ปรากฏว่ามีการพบพลับพลึงธารในหลายๆจุด อาทิที่ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง โดยเฉพาะบริเวณคลองบางปรุ ที่สามารถที่กำลังจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จังหวัดอีกจุดหนึ่งในการท่องเที่ยงเชิงนิเวศน์ ซึ่งทางหน่วยงานเกี่ยวข้องจะกลับไปจัดทำแผนงานเพื่อดำเนินการต่อไป เช่นการประกาศพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์พลับพลึงธาร การขยายพันธุ์เพิ่มเติม รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่บริเวณที่พบแหล่งใหม่เพื่อให้สามารถรองรับการท่องเที่ยวได้
เช่นการก่อสร้างเส้นทาง หรือการกำหนดจุดที่จะเปิดให้มีการท่องเที่ยวชมพลับพลึงธาร สำหรับเปิดเทศกาลท่องเที่ยวล่องแพแลพลับพลึงธาร ซึ่งเป็นเทศกาลท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.ระนองแต่ละปีมีเพียงครั้งเดียวในช่วงระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค. โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายัง จ.ระนองสามารถเดินทางไปชมความงามของดอกพลับพลึงธาร หรือราชินีแห่งสายน้ำ ได้บริเวณคลองนาคา อ.สุขสำราญ ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 80 กม. ซึ่งพบเพียงแห่งเดียวในประเทศที่มีการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ชนิดนี้
“พลับพลึงธาร” (Crinum thaianum) (ชื่อ thaianum เป็นการระบุว่าพบในประเทศไทยเท่านั้น) เป็นพืชไม้น้ำที่หายาก อยู่ในสถานะใกล้ สูญพันธุ์ พบในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดระนองและจังหวัดพังงาเท่านั้น แต่ปัจจุบัน จากการที่พื้นที่ถูกทำลาย และสภาพป่าเปลี่ยนไป ทำให้พลับพลึงธารลดน้อยลง แต่ยังคงพบที่คลองต่างๆใน จ.ระนอง แต่พบมีจำนวนน้อยไม่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ แต่ขณะนี้พบว่าพลับพลึงธารได้กลับมาให้พบเห็นมากขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: