เที่ยวระนองสุดคึกคัก นักท่องเที่ยวทะลักวันหยุดยาวแห่เที่ยวเมืองแห่งความปลอดภัย
ระนอง-นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่าในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 2563 ถึงวันที่ 13 ธ.ค. 2563 พบว่าจังหวัดระนองที่เคยเงียบเหงา กลับมามีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่คึกคักสุดๆ หลังจากที่เงียบเหงามานานจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ในช่วง วันหยุดยาวรอบนี้กลับพบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางเข้ามายัง จ.ระนอง เนื่องจากมีความมั่นใจว่าปลอดภัยจากโควิด-19 รวมทั้งการที่ภาคใต้ตอนล่างเกิดอุทกภัย จึงส่งผลให้ส่งผลดีต่อจังหวัดระนอง ที่นักท่องเที่ยวหันกลับมาท่องเที่ยวพื้นที่ภาคใต้ตอนบนเพิ่มขึ้นเนื่องจากหมดหน้ามรสุม อากาศเย็นสบาย ที่สำคัญคือความปลอดภัยจากโควิด-19 ที่จ.ระนองยังเป็นจังหวัดเดียวในประเทศที่สามารถรักษาพื้นที่สีขาวปลอดโควิด-19มาได้อย่างยาวนาน
ทำให้การท่องเที่ยวในลักษณะครอบครัวจึงเกิดขึ้นในพื้นที่ระนอง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การล่องเรือชมพลับพลึงธาร ราชินีแห่งสายน้ำกำลังเป็นที่นิยมมากที่สุด หลังจากที่จังหวัดระนองสามารถฟื้นฟูราชินีแห่งสายน้ำ พลับพลึงธารให้กลับคืนมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง หลังพื้นที่พบถูกทำลายจากการขุดลอกคลองทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทาง แต่ด้วยความพยายามของทุกหน่วยงานจึงสามารถฟื้นฟูพลับพลึงธารจนฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้ง ทำให้ตอนนี้พลับพลึงธารกลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ สามารถท่องเที่ยวได้ปลอดภัยทั้งบนบกและในทะเล สัมผัสน้ำแร่ร้อนที่บริสุทธิ์ เกาะพยามที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทะเลหมอกบ้านหาดส้มแป้น ล่องแพเปียก พื้นที่ชีวมณฑลระดับโลก และอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อ
เป็นที่น่ายินดีว่าหลังจากที่หลายภาคส่วนพยายามที่หาทางฟื้นฟูพลับพลึงธาร ราชินีแห่งสายน้ำในจังหวัดระนองพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธ์ กลับมาฟื้นฟูได้อีกครั้ง บริเวณคลองนาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 80 กม. ซึ่งเคยพบเพียงแห่งเดียวในประเทศที่มีการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ชนิดนี้ แต่ปรากฏว่าผลกระทบจากการขุดลอกคลองเพื่อป้องกันอุทกภัยได้ทำลายแหล่งอาศัยของพลับพลึงธารจนเสียหายอย่าง จนต่อมาหลายฝ่ายพยายามที่จะฟื้นฟูใหม่ ทั้งการเพาะพันธ์ต้นกล้า การขยายพันธ์ และการรักษาระบบนิเวศน์ลำคลองที่อาศัย
ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดระนอง ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.ชุมพร จัดกิจกรรมปั่นท่องเที่ยว CSR ตามล่าหาพลับพลึงธาร เพื่อเป็นกิจกรรมสำรวจหาพลับพลึงธารในเขตพื้นที่จังหวัดระนองและแนวรอยต่อจังหวัดชุมพรเพื่อที่จะพัฒนา และขยายพันธุ์พลับพลึงธารให้สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้พลับพลึงธารที่เคยพบเป็นจำนวนมากใน จ.ระนองถูกทำลายโดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนต้องปิดการท่องเที่ยวเทศกาลล่องแพแลพลับพลึงธาร มานานหลายปี
“พลับพลึงธาร” (Crinum thaianum) (ชื่อ thaianum เป็นการระบุว่าพบในประเทศไทยเท่านั้น) เป็นพืชไม้น้ำที่หายาก อยู่ในสถานะใกล้ สูญพันธุ์ พบในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดระนองและจังหวัดพังงาเท่านั้น แต่ปัจจุบัน จากการที่พื้นที่ถูกทำลาย และสภาพป่าเปลี่ยนไป ทำให้พลับพลึงธารลดน้อยลง แต่ยังคงพบที่คลองต่างๆใน จ.ระนอง แต่พบมีจำนวนน้อยไม่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ แต่ขณะนี้พบว่าพลับพลึงธารได้กลับมาให้พบเห็นมากขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: