หนุ่มระนองโร่ร้อง คปภ.ค่าเสียหายรถชนบ้านพังต่ำกว่าความเป็นจริง
ระนอง- ผู้สียหายจากเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนบ้านพังทั้งหลังโร่ร้องเรียน คปภ. หลังบริษัทประกันภัยแจ้งจ่ายค่าเสียหายต่ำกว่าความเป็นจริง โดยเจ้าของบ้านร้องค่าเสียหายจากประกันภัยร่วม 7 แสนบาท ในขณะที่ บ.ประกันยันจ่ายเพียง 2 แสนบาท
นายวสันต์ ซ้ายหั่น อายุ 35 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 462 ม.5 ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ซึ่งได้รับความเสียหายทั้งหลังจากเหตุการณ์รถยนต์กระบะชนิดตอนครึ่ง สีเงินยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน บฉ 3172 ระนอง เสียหลักพุ่งชนเข้ากลางบ้านทำให้บ้านพังเสียหายทั้งหลัง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.คืนวันที่ 25 ต.ค.2561 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยังศาลากลาง จ.ระนอง เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมในการจ่ายค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากผลการเจรจาระหว่างผู้เสียหายกับตัวแทนบริษัทประกันภัย และเจ้าของรถที่ก่อเหตุไม่เป็นที่ยุติเนื่องจากบริษัทประกันภัยยันจ่ายได้แค่ 200,000 บาท ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรพ์ประกันภัย ในขณะที่ผู้เสียหายมีการประเมินตัวบ้าน ร้านค้า ที่ถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนเสียหายไม่ต่ำกว่า 700,000 บาท
จากการที่นายวสันต์ได้เดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.ระนอง ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ดำรงธรรม จ.ระนองว่าให้ไปร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จ.ระนอง ซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง นายวสันต์จึงได้เดินทางมายัง สนง.คปภ.ระนองตั้งอยู่ตรงข้ามสามกีฬา จ.ระนอง ม.1 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง เข้าพบ จนท.ประจำ สนง.และได้เขียนคำร้องเรียนต่อ จนท. เพื่อร้องเรียนในเรื่องดังกล่าว
โดยทาง จนท.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย จ.ระนอง กล่าวว่า เมื่อมีกรณีที่ผู้เอาประกัน ผู้รับประโยชน์ หรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันภัยได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อเรียกร้องให้บริษัทชดใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต หรือชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามตามสัญญาประกันวินาศภัย ทาง สนง.ก็จะเร่งทำหนังสือพร้อมแนบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปยังบริษัทต้นสังกัดโดยด่วนเพื่อให้มีการดำเนินการตามประกาศของ คปภ.ต่อไป
นายวสัต์กล่าวต่อว่าในวันเกิดเหตุโชคดีที่ไม่มีคนในบ้านได้รับอันตราย โดยรถยนต์กระบะที่เสียหลักทราบชื่อคนขับชื่อนายปกรณ์ เป็นชาวบ้านใน จ.ระนอง ขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าวขณะฝนตกถนนลื่น ทำให้รถยนต์ที่มาด้วยความเร็วเสียหลักพุ่งเข้าชนเข้ากลางบ้านพักตนเองทำให้ร้านค้าบริเวณหน้าบ้านและตัวอาคารบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลังไม่มีสามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป โดยในขณะเกิดเหตุภรรยาของตนคือนางมิ่งกมล ซ้ายหั่น อายุ 38 ปี นอนอยู่ในห้องกับลูกสาว 2 คน เล่าว่าได้ยินเสียงดังโครมสั่น ตอนแรกนึกว่ามีเหตุระเบิดข้างบ้าน แต่ปรากฏว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาพบว่ามีฝุ่นฟุ้งกระจาย และมีเศษไม้ เศษเหล็กของตัวบ้าน หลังคาบ้านพังระโยงรยางค์เต็มไปหมด ส่วนที่สอนก็มีก้อนหิน เศษไม้กระเด็นเข้ามาทับแต่โชคดีมากๆที่ตนและบุตรสาวไม่เป็นอะไรมาก โดยตนเองรู้สึกเหมือนมีเศษหินจากตัวบ้านที่พังจากแรงกระแทกของตัวรถพุ่งปะทะเข้ากับร่างกายทำให้ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มาก และโชคดีที่ตัวอาคารบ้านไม่พังทลายลงมาทับร่างของตนและลูกทั้งสองที่นอนอยู่ในห้อง
นายวสันต์หรือหมี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายกล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง จนท.ตำรวจ สภ.ละอุ่นได้เรียกตน พร้อมคู่กรณีและบริษัทประกันภัยของรถยนต์ เพื่อเข้าไปเจรจาจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งตนได้เรียกร้องค่าเสียหายไปรวมกว่า 7 แสนบาท เนื่องจากทรัพย์สินของตนทั้งตัวบ้านที่พังทั้งหมดไม่สามารถอยู่อาศัยต่อไปได้ รวมทั้งร้านค้าด้านหน้าที่พังทั้งอุปกรณ์และสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินภายในบ้านอีกจำนวนหนึ่งจึงประเมินค่าเสียหายในเบื้องต้นแจ้งให้บริษัทประกันได้รับทราบ แต่ปรากฏว่าผลการเจรจาไม่สามารถสรุปตรงกันได้ ตนจึงต้องร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม ส่วนรถยนต์ของคู่กรณีขณะนี้ยังจอดคาอยู่ในตัวบ้านตนยังไม่ยินยอมให้นำออกไปจนกว่าจะมีการตกลงค่าเสียหายเรียบร้อยแล้วจึงจะให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายออกจากที่เกิดเหตุต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: