ระนองเกิดปรากฏการณ์ฟ้าหลัว อนุภาคน้ำขนาดเล็กปกคลุมท้องฟ้า ไม่ใช่หมอกควัน
ระนอง-อุตุนิยมวิทยา จ.ระนอง ออกประกาศแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังการใช้เส้นทาง หลังจาก จ.ระนองเกิดปรากฏการณ์ฟ้าหลัว ลักษณะมวลอากาศรวมตัวปกคลุมทั่วเมือง เกิดขึ้นทั้งในกลางวันและกลางคืน ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นและขับขี่ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเส้นทางผ่านเทือกเขา เนินสูงชันจะมีมวลอนุภาคอากาศขนาดเล็กรวมตัวเป็นกลุ่มหนาทึกปิดเส้นทาง
นายไพบูลย์ เอี่ยมสุวรรณ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดระนอง แจ้งว่า จากการจังหวัดระนอง เกิดปรากฏการณ์ฟ้าหลัว ท้องฟ้ามีลักษณะเหมือนหมอกปกคลุมตลอดทั้งวัน เกิดจากเหตุจากมวลอนุภาคน้ำในอ่าวไทยที่ลอยขึ้นรวมตัวเป็นจำนวนมาก จากความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศช่วงรอยต่อฤดูสู่ฤดูแล้งที่มวลอากาศเย็นมาปะทะอากาศชื้นในอ่าวไทย ไม่ได้เป็นปรากฏการณ์หมอกควันเช่นที่เกิดขึ้นกับภาคอื่นๆ แต่ประการใด
ฝุ่นควัน หรือ ฟ้าหลัว หรือ เมฆหมอก หรือ หมอกแดด (อังกฤษ: haze) หมายถึง ลักษณะของอากาศที่ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (เช่น ฝุ่นละออง ควันจากไฟป่า ฝุ่นละอองจากยวดยานพาหนะในเมืองใหญ่ หรือไอเกลือจากทะเล) จำนวนมากล่องลอยอยู่ทั่วไป ทำให้มองเห็นอากาศเป็นฝ้าขาว ในบรรยากาศที่มีฝุ่นควันเกิดขึ้นจะทำให้
พบว่าในขณะนี้มีมวลอากาศหนาวจากประเทศจีน ที่ยังคงเคลื่อนแผ่นลงมาปกคลุมประเทศไทย จึงส่งผลบริเวณอ่าวไทยที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นฤดูร้อน เกิดมีมวลอนุภาคน้ำจำนวนมากลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าจากการเข้ามาปะทะของมวลอากาศหนาวจากประเทศไทยกับมวลอากาศร้อนในประเทศไทย ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นประจำในทุกปีที่มีการเปลี่ยนผ่านฤดูกาล
นายไพบูลย์กล่าวยืนยันว่าสภาพอากาศในชั้นบรรยากาศในพื้นที่ จ.ระนองมีสภาพอากาศเป็นปกติ ไม่มีค่าPM หรือฝุ่นละอองจากการเผาป่า หรือจากการเผาไหม้ของโรงงานอุตสาหกรรม แต่ประการใด แต่เป็นเพราะการปะทะกันของมวลอากาศที่ส่งผลให้บริเวณชั้นบรรยากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ในขณะนี้ และมวลอนุภาคน้ำจากอ่าวไทยที่ลอยขึ้นด้านบนชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้แสงแดดที่ส่องลงมาสู่ผิวดินจะมีปริมาณน้อยลง จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าหลัวเกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งก็เบาบาง แต่บางครั้งก็เกือบจะมืด ส่วนปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้คาดว่าจะยังเกิดขึ้นอีกหลายวันเนื่องจากการตรวจสอบสภาพอากาศพบว่ายังมีความแปรปรวนสูงในระยะนี้
