ผวจ.ระนอง สุดทนนำกำลังยึดยางพารา 4 ตันลักลอบขนจากพม่า
ระนอง-เปิดหน้าชนนายทุนสีเทาระนอง ผวจ.นำกำลัง จับขบวนการลักลอบขนยางพารากลางทะเล 4 ตันลักลอบขนจากพม่าเข้าไทย โดยผวจ.ระนอง นำฝ่ายปกครองสนธิกำลังสนธิกำลังจับเรือหางยาวเมียนมา คาดเป็นขบวนการเครือข่ายสมุนนายทุนใหญ่ลักลอบขนยางพาราแผ่นกว่า 4 ตัน เข้ามาประเทศไทย
ผวจ.ระนองสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจับเรือหางยาวเมียนมาลักลอบขนยางพาราแผ่นกว่า 4 ตัน เข้ามาในจังหวัดระนอง ทางอำเภอกระบุรี เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมชาวเมียนมาไว้ได้จำนวน 3 คน ยางพาราแผ่น น้ำหนักกว่า 4 ตัน เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายและลักลอบนำสินค้าทางการเกษตรเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร
วันที่ 1 มีนาคม 2564 นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 หรือ ศรชล.ภาค 3 พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานบูรณาการปฏิบัติการ ลาดตระเวนสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวลำน้ำกระบุรี จังหวัดระนอง ( แนวชายแดนไทย-เมียนมา)
ขณะทำการลาดตะเวนทางเรือ ที่บริเวณคลองบางใหญ่ ตำบลบางใหญ่ อำเภอกระบุรี พบเรือหางยาวจำนวน 1 ลำ มีผ้าใบคลุมปิดบางอย่างไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนและเข้าทำการตรวจสอบเรือลำดังกล่าว พบว่าบนเรือมี ชาวเมียนมา จำนวน 3 คน ต่อมาทราบชื่อ ชาวเมียนมาทั้ง 3 คน ดังนี้ 1.ชื่อ นายอ่าว อายุ 64 ปี 2. ชื่อ นายนาย อายุ 30 ปี 3.ชื่อ นายซาแว อายุ 31 ปี และภายหลังเปิดผ้าใบที่คุมออก พบสินค้าทางการเกษตรเป็นยางพาราแผ่นน้ำหนักกว่า 4 ตัน ซุกซ่อนอยู่ในเรือหางยาวลำดังกล่าว
จึงได้นำตัวชาวเมียนมาทั้ง 3 คน มาทำการสอบสวน ทราบว่าทั้ง 3 คนได้เป็นพ่อค้าคนกลาง รับซื้อยางพาราจากชาวบ้านในจังหวัดเกาะสองหลังจากที่ได้ปริมาณมากพอแล้วก็ได้นำสินค้าทั้งหมดเข้ามาขายที่จังหวัดระนอง โดยเข้ามาทางอำเภอกระบุรี
เจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดระนองทำการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ส่งเข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนดไว้ จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระบุรี หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร เข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ แอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและลักลอบนำสินค้าทางการเกษตรเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: