ผวาปิดด่าน พม่าสั่งขนสินค้าทะลักด่านชายแดนระนอง
ระนอง- โควิด-19 ระลอก3 ไม่ฉุดค้าชายแดน กลับยังพุ่งหลังพม่าผวาไทย-พม่าอาจด่านหากยังคุมโควิด-19 ไม่อยู่ยังสินค้าต่อเนื่องทั้งปูนซิเมนต์ น้ำมัน และสินค้าอุปโภค-บริโภค
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก3 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้ พบว่าไม่มีผลกระทบต่อการค้าชายแดนไทย-เมียนมา แต่ประการใด เนื่องจากไม่มีการปิดด่านชายแดน เพียงแต่วางกฎการห้ามคนเรือขึ้นมาบนฝั่ง จึงทำให้การค้าขายชายแดนยังคงดำเนินได้ตามปกติ แต่ก็กลับพบว่ามีปรากฏการณ์ที่ผิดปกติที่ฝ่ายพม่าสั่งออเดอร์พุ่งมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะเกรงว่าจะเกิดการปิดด่านชายแดน หากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสองประเทศยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
นายนิต์กล่าวต่อว่า ด่านชายแดนด้าน จ.ระนองยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง เหตุเพราะวิกฤติการเมืองเมียนมา ทำสินค้าในประเทศเมียนมา ขาดแคลน และมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้พ่อค้าชายแดนสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้บรรยากาศการส่งออกสินค้าบริเวณชายแดนด้น จ.ระนองมีความคึกคักพบมีรถบรรทุกสินค้าจอดเป็นแถวยาวรอคิวเข้าสู่ท่าเรือเพื่อนำสินค้าลงเรือส่งไปยังเมียนมา ในขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็ยิ่งทำให้คำสั่งซื้อจากเมียนมาเข้ามาเพิ่มขึ้นเนื่องจากหวั่นเกรงมาตรการควบคุมของไทยที่อาจจะกระทบการขนส่ง แต่พบว่าขณะนี้มาตรการการขนส่งสินค้ายังคงเป็นปกติ จึงทำให้การค้าขายชายแดนจึงยังทำการค้าได้อย่างต่อเนื่อง และจากวิกฤติปัญหากลับยิ่งส่งผลดีต่อการค้าขายชายแดน
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า วิกฤติการเมืองในประเทศเมียนมา และการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับไม่กระทบค้าต่อบรรยากาศการค้าชายแดนด้านระนอง แต่กลับมีบรรยากาศที่คึกคักมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะปูนซิเมนต์ ที่พบว่ามีการสั่งออเดอร์เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่อาจจะติดอุปสรรคเพียงแค่การลำเลียงลงเรือเพื่อนำไปยังฝั่งประเทศเมียนมา ที่ต้องช้ากว่าปกติ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
บรรยากาศการค้าขายชายแดนไทย-เมียนมาด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง กลับมาคึกคักแม้ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบสอง และปัญหาการเมืองภายในของเมียนมาที่ช่วงแรกหลายคนวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าชายแดน แต่พบว่าจนถึงขณะนี้ เดือน ก.พ.-มี.ค. 2564 สถานการณ์การค้าชายแดนด้านระนอง-เกาะสอง ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงยังคงมีการค้าขายตามปกติ โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่เดือน ธ.ค..2563- เดือน เม.ย. 2564 จะเป็นช่วงที่ทางฝั่งเมียนมาออเดอร์สินค้าประเภทปูนซีเมนต์ และน้ำมันมากกว่าช่วงปกติ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูแล้งการขนส่งคมนาคมมีความสะดวกจะเร่งต้องสั่งไว้เตรียมรับมือในช่วงหน้าฝนอีกด้วย ดังนั้นแม้ว่าจะเกิดวิกฤติโควิด-19 แต่สถานการณ์โดยทั่วไปยังอยู่ในระดับที่ดีมากทั้งกำลังซื้อของฝั่งเมียนมาที่ไม่ลดลง แต่ปัจจัยค้าชายแดนที่ส่งผลให้ยอดการค้าชายแดนลดลงคือข้อจำกัดเรื่องกฎกระเบียบเกี่ยวกับโควิด-19
การค้าขายกลับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงนี้ แม้ว่าประเทศไทย รวมทั้งเมียนมา หรือทุกประเทศทั่วโลกกำลังประสบวิกฤติปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น แต่กลับไม่กระทบการค้าชายชายแดน ออเดอร์การสั่งซื้อสินค้ายังเหมือนเดิม บางอย่างกลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ โดยสินค้าหลักที่ทางฝ่ายเมียนมาต้องการมากที่สุดคือปูนซิเมนต์ และอุปกรณ์การก่อสร้างที่ทางการเมียนมาจะนำเข้าไปสนับสนุนโครงการก่อสร้างต่างๆที่กำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ นอกจากนี้พบว่าสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นก็มีตัวเลขการสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้อาจจะเป็นการหวั่นผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศเมียนมา รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19
จึงทำใหม่ฝ่ายเมียนมาสั่งสินค้าจำเป็นมากขึ้น ในขณะที่ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างนี้คือการขนส่ง และการนำออกจากฝั่ง จ.ระนอง ที่ต้องมีกฎระเบียบเพิ่มขึ้นส่งผลให้ล่าช้าในการดำเนินการ แต่ก็ยังรับได้ไม่ถึงกับว่ามีปัญหา แต่บางช่วงรถสิบล้อบรรทุกสินค้าที่นำสินค้ามายังท่าเรือระนองเพื่อรอส่งข้ามฟากไปยังฝั่ง จ.เกาะสองจะต้องจอดรอเทียบท่าที่ท่าเรือเป็นจำนวนมากนับ 50-70 คัน
โดยประเภทสินค้าที่มีการส่งออก 10 อันดับแรก ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง หล่อลื่น, ท่อเหล็กใช้ในการขุดเจาะปิโตรเลียม, ปูนซีเมนต์, ของทำด้วยเหล็ก, ตาข่ายจับปลา, ของปรุงแต่งชนิดที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์, เครื่องดื่มให้พลังงาน, หัวเจาะพร้อมอุปกรณ์ใช้ในงานขุดเจาะฯ, ข้อต่อเหล็ก และสารยึดปรุงแต่งสำหรับทาแบบหล่อหรือแกนหล่อ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: