ระนองเฮ! จุรินทร์” เล็งปลดล็อคพื้นที่ป่าชายเลนย่านเศรษฐกิจระนอง 520 ไร่
“จุรินทร์”ลงพื้นที่ระนอง ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินป่าชายเลน ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จ 520 ไร่ภายในไตรมาส 4 ของปี 65 เพื่อรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และรองรับแผนการพัฒนา SEC พร้อมรับข้อเสนอของภาคเอกชนไปประสาน ศบค.เร่งขอวัคซีนฉีดให้แรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายในระยะเร่งด่วน 6,400 คน และขานรับข้อเสนอเกาะพยามคอนเน็กเชื่อมโยงภูเก็ตแซนบ็อกซ์และสมุยพลัส
ข่าวน่าสนใจ:
(12 ก.ย.64) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานเขตตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (กลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน) พร้อมด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือรับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องจากภาคเอกชนและผู้ประกอบการแพปลาจังหวัดระนอง ที่แพปลากิจไพศาล ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง มีนายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด รองอธิบดีกรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง ผู้แทนแพปลาระนอง ร่วมต้อนรับและหารือ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนในฐานะประธานเขตตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (กลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน)ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1.ปัญหาพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ ที่ได้ให้ผู้ประกอบการและเอกชนเช่าสำหรับทำธุรกิจและแพปลามาเป็นเวลานานแล้วและได้หมดสัญญาเช่าหลายปีแล้ว
เป็นประเด็นที่มาของการเรียกร้องว่าจะทำอย่างไรให้มีการต่ออายุสัญญาได้เพราะบริเวณพื้นที่นี้มีประมาณ 520 ไร่ ซึ่งเป็นที่เศรษฐกิจสำคัญของระนองในปัจจุบัน ซึ่งได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการโอนพื้นที่ของกรมป่าไม้ไปให้กรมธนารักษ์ และเมื่อกรมธนารักษ์เป็นเจ้าของที่ดินแล้วก็จะเปิดโอกาสให้เอกชนและผู้ประการการที่ดำเนินการอยู่เดิมสามารถได้เช่าต่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้พื้นที่ 520 ไร่เป็นแหล่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดระนองต่อไปได้ คาดว่าจะสามารถให้เช่าต่อได้ให้เสร็จภายในไตรมาส 4 ของปี 2565 ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้แทนกรมธนารักษ์และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแล้ว เมื่อการแก้ไขปัญหาพื้นที่ 520 ไร่แล้วเสร็จก็จะเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาที่ดินแปลงที่เหลือต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 กรณีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งจังหวัดระนองมีประชากรประมาณ 190,000 คน ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 68% แต่ประเด็นสำคัญคือผู้ประกอบการและเจ้าของโรงงานที่เป็นภาคการผลิตสำคัญของจังหวัดระนอง เศรษฐกิจภาคใต้รวมถึงการส่งออกด้วย ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งจังหวัดระนองมีแรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 40,000 คน ซึ่งผู้ประกอบการต้องการให้ฉีดวัคซีนทั้งหมด แต่ต้องมีการคัดกรองออกมาเฉพาะภาคธุรกิจและโรงงานที่มีความจำเป็นจริง ๆ ก่อน เช่น ที่ผลิตอาหาร ที่ผลิตสินค้าส่งออก
เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรฐกิจของระนองมีอยู่ประมาณ 7-8 โรงงาน รวมทั้งแพปลาอีกประมาณ 250 แห่ง ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย มีจำนวนรวมกันประมาณ 6,400 คน จึงต้องขอให้ ศบค.จัดสรรวัคซีนเร่งด่วนมาให้ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ ตนในฐานะประธานเขตตรวจราชการฯ ได้รับเรื่องไปประสานกับ ศบค.และกระทรวงแรงงานต่อไป และประเด็นที่ 3 ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวเสนอให้เกาะพยาม ภายใต้ชื่อเกาะพยามคอนเน็ก
เป็นจุดเชื่อมต่อกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กับสมุยพลัส นั่นหมายความว่าเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาภูเก็ต 7 วันแล้ว นอกจากจะไปเที่ยวที่พังงาและกระบี่ได้แล้วขอให้ไปเที่ยวเกาะพยามได้ด้วย หรือนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเกาะสมุยตามสมุยพลัส เมื่อครบตามเวลาที่จะไปต่อ ขอให้ไปต่อที่เกาะพยามได้ ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ดี และรัฐบาลในภาพรวมก็ส่งเสริมการเปิดจุดต่าง ๆ อยู่แล้วที่มีความพร้อม สิ่งสำคัญประชากรเกาะพยามก็ไม่เยอะเพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนให้ครบ 70 % ก็ไม่มากแค่หลักโดส ซึ่งได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 58 % ตนก็จะนำเสนอ ศบค.ให้ต่อไปด้วย….
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: