ระนอง เฝ้าระวัง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์ ยังปลอดภัยตายเป็นศูนย์
จังหวัดระนองสรุปผลปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 วันแรกมีอุบัติเหตุ 1 ครั้ง บาดเจ็บ 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต
(12 เม.ย.65) ที่ห้องพลับพลึงธาร ศาลากลางจังหวัดระนอง นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 โดยมีนางสำเนียง มณีรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง พร้อมคณะทำงานประจำศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 เข้าร่วมประชุม เพื่อสรุปยอดผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนและรับฟังข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเพื่อนำมาปรับปรุงในที่ประชุมครั้งต่อไป
นางสำเนียง มณีรัตน์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง ได้แจ้งนโยบายของกระทรวงคมนาคม ในการขอความร่วมมือประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อกระจายการเดินทางและเหลื่อมเวลาการเดินทาง รณรงค์ให้ชุมชนดูแลกันเอง สรุปข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 จังหวัดระนอง วันแรกจำนวนสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน รวม 1 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ในพื้นที่อำเภอเมืองระนอง สาเหตุเกิดจากขับรถเร็ว
โดยจังหวัดระนองได้บูรณาการร่วมกับอีกหลายหน่วยงานในการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน โดยได้มีการตั้งจุดตรวจรวม 10 จุด และจุดบริการ 31 จุด จาก 5 อำเภอ ส่วนการตั้งจุดตรวจในพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอ ตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร มีการเรียกตรวจรถทุกประเภท จำนวน 703 คัน ปรากฏว่า มีผู้กระทำผิดถูกดำเนินคดี 83 คัน เป็นเพศชาย 55 คน เพศหญิง 28 คน แยกเป็นฐานความผิด ดังนี้ มากที่สุดไม่มีใบขับขี่ 37 คน รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย 36 คน มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย 2 คน ตามลำดับ
จากนั้นได้มีการสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยงาน และสรุปผลการตรวจเยี่ยมจุดตรวจของคณะทำงานฯ ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.กะเปอร์ โดยสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.ระนอง สำนักงานพัฒนาชุมชน จ.ระนอง พื้นที่ อ.กระบุรี และ อ.ละอุ่น โดย สถานีพัฒนาที่ดิน จ.ระนอง สำนักงานบังคับคดี จ.ระนอง และ พื้นที่ อ.สุขสำราญ โดยสำนักงานพลังงาน จ.ระนอง ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้เน้นย้ำเรื่องการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”โดยให้ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เน้นพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
ซึ่งเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเป็นพิเศษ เพื่อป้องปรามตักเตือนผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยเฉพาะจัดระเบียบการจราจรบริเวณสถานีบริการประชาชนตามเส้นทางหลัก และเน้นด่านชุมชนในการคัดกรองก่อนมีพฤติกรรมเสี่ยงในถนนสายหลักเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ
