เทศบาลเมืองระนอง ทดลองระบบการให้บริการบ่อแช่ตัว สวนสาธารณะรักษะวาริน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นลดปัญหาและอุปสรรค ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการปลายปีนี้
วันนี้ (1 พ.ย.65) เวลา 18.00 น.ณ บ่อแช่ตัว สวนสาธารณะรักษะวาริน เทศบาลเมืองระนอง ทดลองระบบการให้บริการบ่อแช่ตัว สวนสาธารณะรักษะวาริน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นลดปัญหาและอุปสรรค ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการปลายปีนี้ โดยมี นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นางสาวกฤชสร ทรายแก้ว ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานชุมพร-ระนอง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนอง นางกรรณิกา เอี้ยวตระกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระนอง นายอำเภอเมืองระนอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง ประชาสัมพันธ์จังหวัดระนอง พร้อมภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายพินิจ ตันกุล นายกเทศมนตรีเมืองระนอง นำเยี่ยมชมการทดลองระบบการให้บริการฯ ทั้งนี้ผู้ร่วมทดสอบระบบได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการเข้าใช้งานจริง จนถึงขั้นตอนการลงไปแช่ตัวในบ่อแช่
ข่าวน่าสนใจ:
- มท.1 เยือนจังหวัดนครพนม เปิดงานมหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม ประจำปี 2567 ครั้งที่ 21 ผลักดัน Soft Power อำเภอศรีสงคราม
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
นายพินิจ ตันกุล นายกเทศมนตรีเมืองระนอง เปิดเผยว่า ด้วยเทศบาลเมืองระนองมีกำหนดจะเปิดให้ใช้บริการบ่อแช่ตัว สวนสาธารณะรักษะวารินแก่ผู้ใช้บริการและนักท่องเที่ยวที่สนใจการดูแลสุขภาพด้วยการแช่น้ำแร่ร้อน โดยเป็นการทดลองระบบการให้บริการ เพื่อให้การบริหารจัดการบ่อแช่ตัวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ลดปัญหาและอุปสรรคหรือข้อบกพร่องอื่นๆ ก่อนการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การเปิดให้บริการบ่อแช่ตัว และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของสวนสาธารณะรักษะวาริน เทศบาลเมืองระนองจึงกำหนดจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การให้บริการบ่อแช่ตัว ในวันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เวลา 18.00 น. ณ บ่อแช่ตัว สวนสาธารณะรักษะวาริน สำหรับการทดลองระบบการให้บริการบ่อแช่ตัว กำหนดให้บริการวันละ 2 รอบ โดยรอบเช้า เวลา 06.00-07.00 น. รับจำนวนไม่เกิน 25 คน และรอบเย็น เวลา 17.00-18.00 น. รับจำนวนไม่เกิน 25 คน
ในส่วนขั้นตอนในการใช้บริการบ่อแช่ตัวในช่วงของการทดลองระบบ ณ อาคารบริการนักท่องเที่ยว รักษะวาริน โดยใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมง ในการใช้บริการ มีดังนี้ 1. ถอดรองเท้าเก็บไว้บนชั้นวางรองเท้าด้านหน้าอาคารบริการนักท่องเที่ยว รักษะวาริน 2. ลงทะเบียน ซักประวัติ และวัดความดัน ณ จุดประชาสัมพันธ์และซักประวัติ 3. รับกุญแจล็อกเกอร์เพื่อเก็บสัมภาระ โดยผู้ใช้บริการไม่ควรนำทรัพย์สินมีค่ามาด้วย 4. เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับการแช่น้ำแร่ร้อน (ผู้ใช้บริการนำมาเอง ได้แก่ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ผ้าเช็ดตัว) 5. เข้าใช้บริการบ่อแช่ตัว โดยปฏิบัติตามคำแนะนำและข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 6. ทำความสะอาดร่างกายก่อนลงแช่น้ำแร่ร้อนทุกครั้ง 7. หย่อนเท้าและขาลงในบ่อแช่ตัวอย่างช้าๆ เมื่อร่างกายปรับอุณหภูมิได้แล้ว จึงค่อยๆ ลงแช่ทั้งตัว 8. ใช้เวลาในการแช่รอบละไม่เกิน 10–15 นาที และไม่ควรเกิน 3 รอบต่อ 1 ครั้ง โดยให้แต่ละรอบสลับกับการอาบน้ำด้วยน้ำเย็น 9. ควรแช่น้ำแร่ร้อนให้อยู่ในระดับเหนืออก และเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด 10. หากรู้สึกอึดอัดระหว่างการแช่น้ำแร่ร้อน ควรขึ้นมาพักให้ผ่อนคลายหรืออาบด้วยน้ำเย็นจึงจะลงไปแช่อีกครั้ง 11. ควรดื่มน้ำเปล่าขณะพักหรือระหว่างการแช่น้ำแร่ร้อน 12. หลังการแช่น้ำแร่ร้อน ควรอาบน้ำในน้ำอุณหภูมิปกติ เพื่อปิดรูขุมขนและปรับสภาพของร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ก่อนออกจากอาคารบริการนักท่องเที่ยว 13. ขอความร่วมมือตอบแบบสำรวจความพึงพอใจในการใช้บริการบ่อแช่ตัว เพื่อประกอบการบริหารจัดการต่อไป
สำหรับข้อห้ามและข้อควรระวังในการแช่น้ำแร่ร้อนเพื่อสุขภาพ
1. ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ใช้บริการบ่อแช่ตัว
2. ผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจล้มเหลว โรคตับแข็งระยะสุดท้าย โรควัณโรคระยะแพร่กระจาย โรคซึมเศร้ารุนแรงโรคผิวหนัง เส้นเลือดขอด หรือผิวหนังมีบาดแผลเปิดทุกชนิด รวมถึงสตรีขณะมีประจำเดือน สตรีมีครรภ์หรือหลังคลอดที่ผ่าตัดไม่เกิน 1 เดือน หรือคลอดแบบธรรมชาติไม่เกิน 7 วัน ไม่ควรลงแช่น้ำแร่ร้อน
3. ผู้ใช้บริการที่เป็นผู้สูงอายุ ควรมีผู้ดูแลระหว่างการแช่น้ำแร่ร้อนอย่างใกล้ชิด
4. ผู้ป่วยโรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคปลอกปลายประสาทเสื่อมแข็งหรือผู้ที่รับรู้ความร้อนเย็นผิดปกติ ให้ระมัดระวังการโดนความร้อนมากเกินไป อาจทำให้แสบผิวหนังและเกิดแผลไฟไหม้ (Burn) ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: