ระนองเมืองแห่งความปลอดภัย Smart Safety Zone 4.0
เทศบาลเมืองระนอง ร่วมมือกับตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และสถานีตำรวจภูธรเมืองระนอง เปิดโครงการรักษะวาริน Smart Safety Zone 4.0 ขับเคลื่อนระนองเป็นเมืองแห่งความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
ที่สวนสาธารณะรักษะวาริน ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง มีพิธีเปิดโครงการรักษะวาริน สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 โดยนายพินิจ ตันกุล นายกเทศมนตรีเมืองระนอง พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผบช. ภาค 8 พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ระนอง พร้อมคณะเข้าร่วมพิธี
โครงการรักษะวาริน สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ได้ติดตั้งเสาช่วยเหลือฉุกเฉิน Smart Security พร้อมกล้อง SOS ติดตั้งที่เสาดังกล่าวเพื่อให้ใช้งานง่าย เพียงนักท่องเที่ยวหรือประชาชน ที่ประสบเหตุ ต้องการแจ้งเหตุต่างๆ สามารถเดินมาที่หน้ากล้องที่ติดตั้งไว้หน้าลานร้อน บริเวณสวนสาธารณะรักษะวาริน และกดปุ่มแจ้งเหตุได้ทันที ระบบจะเชื่อมต่อกับศูนย์วิทยุ ของ สภ.เมืองระนอง สามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดูภาพผ่านกล้องที่ติดอยู่ ผู้แจ้งเหตุไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพัก หรือตามหาเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับทางสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และสถานีตำรวจภูธรเมืองระนอง เพื่อให้การรับแจ้งเหตุฉุกเฉินเป็นไปอย่างทันท่วงที โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สร้างความอุ่นใจ และปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนที่เดินทางมาท่องเที่ยว ภายในพิธีเปิดโครงการฯ ได้มีการทดสอบระบบการแจ้งเหตุ และจับเวลาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถมาถึงจุดเกิดเหตุภายในระยะเวลาเท่าใด ในการทดสอบครั้งนี้เจ้าหน้าที่มาถึงจุดเกิดเหตุภายในเวลา 2 นาที
นายพินิจ ตันกุล นายกเทศมนตรีเมืองระนอง กล่าวว่า เทศบาลเมืองระนองได้เล็งเห็นความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดระนอง คือ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเป็นโครงการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของเทศบาลเมืองระนอง จึงได้จัดทำโครงการรักษะวาริน สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ขึ้น เป็นแนวคิดของโครงการที่ผสมผสานแนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทซิตี้ เข้ากับแนวคิดที่จะสร้างพื้นที่ปลอดภัย หรือ เซฟตี้โซน ให้เกิดขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือ และการมีส่วนร่วมของทุกคน มีเป้าหมายสำคัญ คือ การพัฒนารูปแบบวิธีการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกโดยใช้นวัตกรรม และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง อันจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
