น้ำทะเลเปลี่ยนทิศ กัดเซาะหนักชายฝั่งระนองทำพื้นที่ชายฝั่งหายไปกับน้ำยาวนับ 3 กม.
ระนอง-อบจ.ระนอง ลงพื้นที่ดูปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะถนนและชายฝั่ง หมู่ที่ 2 บริเวณหาดประพาส และทะเลนอก
วันที่ 7 สิงหาคม 2566 นายธนกร บริสุทธิญาณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายสุมิตร รักษา เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง นายสุเชษฐ หาญจิตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ลงพื้นที่ดูปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะถนนและชายฝั่ง หมู่ที่ 2 บริเวณหาดประพาสและทะเลนอก เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป
นายธนกร บริสุทธิญาณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง กล่าวว่า หลังปี 2547 ที่เกิดสินามิ หลังนั้นพบว่ากระแสน้ำทะเลมีการเปลี่ยนทิศ โดยคลื่นทะเลจะซัดเข้าสู่ชายฝั่งมากขึ้น และเป็นคลื่นขนาดใหญ่ ทำให้ต่อมาได้พัดเซาะมาถึงชายฝั่งที่มีแนวต้นสนขนาดใหญ่ ปรากฏกว่ากระแสคลื่นได้พัดต้นสนกว่า 300 ต้น บริเวณริมหน้ากาดหัดข้นแบบถอนรากถอนโคนจนหมดสิ้น ต่อมากระแสน้ำทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่งพัดซัดกินลึกเข้ามาในที่พื้นที่
จนพื้นที่บริเวณแนวชายหายถูกกระแสน้ำทะเลซัดหายจมลงทะเล และพบว่าการกัดเซาะจากกระแสคลื่นยังเดินหน้าเข้าชายฝั่งเพิ่มมากขึ้น และกัดเซาะพื้นที่จมหายลงในทะเล โดยพื้นที่ที่กินลึกเข้ามาประมาณเกือบ 200 ม.ซึ่งปัจจุบันการกัดเซาะมาถึงแนวถนนชายหาดเพื่อสร้างเพื่อสัญจรไปมากับศูนย์วิจัยของ ม.เกษตรศาสตร์ ซึ่งหากยังไม่มีการแก้ไขปัญหาน้ำทะเลจะซัดกัดเซาะถนนพังเสียหายทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ทางสัญจรไปยังศูนย์วิจัยไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้อีกต่อไป
