ภาคเอกชนระนอง คึกคักเตรียมรับ ครม.สัญจร เชื่อว่า การประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดระนอง จะทำให้มีการเร่งรัดโครงการแลนด์บริดจ์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ภาคเอกชนระนอง เชื่อว่า การประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดระนอง จะทำให้มีการเร่งรัดโครงการแลนด์บริดจ์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น พร้อมทั้งขอให้ ครม.เร่งรัดการแก้ไขปัญหาที่ดินบริเวณสะพานปลา 512 ไร่ด้วย
นายธัญวิทย์ ธรรมสุนทร กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเลขานุการสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลกำหนดจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่จังหวัดระนอง จะทำให้มีการเร่งรัดโครงการแลนด์บริดจ์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลมีความตั้งใจมาก เพราะนายกรัฐมนตรีได้ไปมีการพูดคุยในที่ประชุมผู้นำเอเปก ที่สหรัฐอเมริกา และที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนให้เข้ามา
นายธัญวิทย์ กล่าวต่อว่า จังหวัดระนองยังมีปัญหาเรื่องที่ดินที่บริเวณสะพานปลาประมาณ 512 ไร่ ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วได้รับทราบปัญหาและได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของการออกสัญญาเช่าจากกรมธนารักษ์ จึงขอฝากให้การประชุม ครม.ในครั้งนี้ช่วยเร่งรัดการดำเนินงานให้ลุล่วงด้ว
ทางด้านสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเขต 10 ระบุ การประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดระนอง ถือเป็นข่าววดีที่จะได้ยกระดับการพัฒนาให้ทัดเทียมจังหวัดอื่น ๆ พร้อมทั้งขอให้ ครม.พิจารณาก่อสร้างท่าเรือมารีน่าชุมชน
นางกรรณิกา เอี้ยวตระกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 10 (ระนอง-ชุมพร-สุราษฎร์ธานี) เปิดเผยว่า พอได้ยินข่าวว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กำหนดจัดประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดระนอง ถือว่าเป็นข่าวดี เพราะว่า เมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่งใหม่ ๆ แล้วได้เดินทางไปที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา นั้น ตนเป็นตัวแทนภาคเอกชนจังหวัดระนอง ได้มีโอกาสเข้าพบนายกรัฐมนตรีของกลุ่มอันดามันด้วย พร้อมกับบอกนายกรัฐมนตรีว่าอยากให้ไปพบปะพี่น้องประชาชนที่จังหวัดระนองบ้าง ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับปากว่าไปแน่นอน พอทราบข่าวว่าจะมีการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.ระนอง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ท่านนายกฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของจังหวัดระนอง ซึ่งชาวระนองก็จะสามารถนำเสนอความต้องการและปัญหาต่าง ๆ ได้ โดยในส่วนของภาคการท่องเที่ยวก็จะเสนอในเรื่องของการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนสายระนองที่ไปตะกั่วป่า ไปภูเก็ต เพื่อร่นเวลาในการเดินทาง มีการนำนักท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน รวมทั้งการพัฒนาเกาะแก่งต่าง ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางอากาศ ทางทะเล หรือทางบก
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 10 กล่าวด้วยว่า ขณะนี้จังหวัดระนองอยากได้ท่าเทียบเรือมารีน่าชุมชน เพราะระนองเป็นต้นทางของอันดามัน ถ้ามีท่าเทียบเรือมารีหรือฮับ (Hub) มารีน่า ก็จะสามารถเชื่อมโยงไปยังเกาะแก่งต่าง ๆ ได้ทั้งเกาะสุริน เกาะสิมิลัน รวมทั้งเกาะแก่งของประเทศเพื่อนบ้าน หากทำได้ก็จะทำให้จังหวัดระนองยกระดับด้านการท่องเที่ยวขึ้นมาสามารถเชื่อมโยงกับจังหวัดใหญ่ ๆ ได้ ทั้งภูเก็ต พังงา และกระบี่ ที่เขาเป็นเมืองหลัก แต่ระนองเราเป็นเมืองรอง เราก็ต้องการที่จะยกระดับให้เป็นเมืองหลักด้วยเหมือนกัน ซึ่งทรัพยากรของจังหวัดระนองก็ไม่ได้ด้อยกว่าจังหวัดอื่น ๆ แต่เรายังขาดการเจียรไน ขาดการพัฒนา หากรอบนี้ท่านนายกฯและ ครม.ลงที่ระนองจริง โครงการต่าง ๆ ก็จะได้รับการการดูแลมากขึ้น แต่ก็อยู่ที่ชาวระนองว่าจะเตรียมข้อมูลและนำเสนออย่างไร
นายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่าในวันนี้ (14 ธ.ค.2566) ทางจังหวัดระนองจัดประชุมคณะกรมการจังหวัดเป็นกรณีพิเศษ เพื่อแจ้งเรื่องการเตรียมความพร้อมรองรับการประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดระนอง เพื่อเตรียมในด้านต่างให้พร้อมในการต้อนรับ ซึ่งจังหวัดมีความพร้อมในทุกด้านในการต้อนรับคณะรัฐมนตรี
