จังหวัดระนองเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 11 ซึ่งประกอบด้วย 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน
(20 มี.ค.67) ณ หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ประธานที่ปรึกษาเหล่ากาชาดจังหวัดระนอง ได้กล่าวต้อนรับ คณะนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้แทนเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 11 นายกเหล่ากาชาดจังหวัด รองนายกเหล่ากาชาด เลขานุการเหล่ากาชาด นายกกิ่งกาชาดอำเภอ เหรัญญิก เลขานุการกิ่งกาชาดอำเภอ เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป
เนื่องในโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 11 ซึ่งประกอบด้วย 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระนอง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดกระบี่และจังหวัดชุมพร โดยได้มีการนําเสนอผลการดําเนินงานของเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 11 ประจำปี 2567 (ตุลาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2567) จำนวน 7 จังหวัด ๆ ละไม่เกิน 7 นาที และร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติงานตามพันธกิจของ เหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 11
จังหวัดระนองเป็นประตูภาคใต้ฝั่งอันดามัน เป็นเมืองชายแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับสาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมา แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 อำเภอ มีประชากรกว่า 190,000 คน จังหวัดระนองจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย เมื่อครั้งอดีตเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรแร่ในปริมาณมาก
โดยเฉพาะแร่ดีบุก จึงได้ ชื่อว่า “เมืองแร่นอง” ทั้งยังเป็นแหล่งที่ตั้งของบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่เลื่องชื่อ คือ “บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน” ซึ่งมีความหมายว่า น้ำที่ใช้รักษาโรคได้ อันเป็นนามที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานไว้เมื่อคราวเสด็จเยือนระนอง ในปี พ.ศ. 2510 รวมทั้งยังมีความเป็นเอกลักษณ์ของวิถีวัฒนธรรมพื้นถิ่น ดังคำขวัญประจำจังหวัดระนองว่า “คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวาน ธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง”
จังหวัดระนองได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนภารกิจของเหล่ากาชาดจังหวัดและสภากาชาดไทยต่อเนื่องตลอดมา การประชุมในวันนี้ถือว่ามีความสำคัญยิ่ง เพราะจะได้ร่วมกันปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญของสภากาชาดไทย คือการปรารถนาให้พลเมืองอยู่ดี กินดี สามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขอย่างสูงสุด
