ตำรวจระนองรวบผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางรับซื้อยางเถื่อนจากเมียนมา
(16 มิ.ย. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ร่วมกับทหาร และฝ่ายปกครองเข้าจับกุมบุคคลตามหมายจับ 2 ราย จากการขยายผลการตรวจยึดและจับกุมยางพาราเถื่อนจากเมียนมา คนแรกคือ นายปรีชา แก้วเจือ ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางคอคอดกระ ผู้รับซื้อยางพารา อีกรายคือ นายยรรยง คชวงศ์ ผู้รวบรวมยางพารามาขายให้กับสหกรณ์กองทุนสวนยางคอคอดกระ
พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง กล่าวว่า ปฏิบัติการในวันนี้ เป็นการขยายผลสืบเนื่องจากการตรวจค้นและยืดยางพาราแผ่นที่สหกรณ์กองทุนยางสวนยางคอคอดกระ อ.กระบุรี จ.ระนอง เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา โดยได้ตรวจยึดยางพาราแผ่นไว้จำนวน 327 ตัน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นยางพาราลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเมียนมา อีกทั้งได้มีการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดพบว่า ได้มีการสวมสิทธิเกษตรกรในการนำยางพารามาขายให้กับสหกรณ์ ซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบยางพาราที่ตรวจยึดอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญก็พบว่าเป็นยางพาราจากเมียนมากว่า 120 ตัน จึงได้มีการออกหมายจับผู้จัดการสหกรณ์ฯ และทำการขยายผลไปยังกลุ่มผู้ที่นำมาขาย โดยในวันนี้ได้ติดตามจับกุมตามหมายจับ 1 ราย พร้อมบัญชีการซื้อขาย และบัญชีธนาคาร ซึ่งจะได้ขยายผลต่อในการใช้กฎหมายการฟอกเงิน อีกทั้งยังได้มีการขยายผลต่อตามเอกสารหลักฐานไปยังร้านค้าที่รับซื้อยางผิดกฎหมาย ซึ่งในขณะนี้มีการหลบหลีกการกระทำความผิด ทั้งการขอซื้อหรือเช่าสิทธิเกษตรกรในการขายยางพารา
พล.ต.ต.เชิดพงษ์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ความยากลำบากในการขนส่งยางไปจำหน่ายในประเทศเมียนมาเอง ประกอบกับการเป็นเมืองชายแดนที่ง่ายต่อการลักลอบนำยางมาส่งขายที่จังหวัดระนอง ทำให้ยางจากจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ได้ทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งตามปกติแล้วผู้รับซื้อยางพาราจะดูออกว่ายางพารานั้นเป็นของไทยหรือของเมียนมา เพราะจะมีลักษณะและคุณภาพยางที่ต่างกัน ทั้งเรื่องของสี ความสะอาด ความยืดหยุ่น และความหนาของยาง ซึ่งการทำยางแผ่นของไทยจะมีคุณภาพและดีกว่ายางจากเมียนมา แต่การรับซื้อยางจากเมียนมามาขายต่อจะมีส่วนต่างของราคาที่สูง 30-40 บาท ทำให้เป็นสิ่งล่อใจให้กระทำความผิด ซึ่งได้มีการกระทำแบบนี้มายาวนานมาก อันส่งผลกระทบต่อราคายางในประเทศ และผลประโยชน์ของเกษตรกรไทย ทำให้ทางรัฐบาลได้มีนโยบายในการเร่งแก้ไขและปราบปรามปัญหายางเถื่อน ซึ่งจังหวัดระนองโดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนองก็ได้มีนโยบายและสั่งการในเรื่องนี้กับทุกหน่วยด้วย โดยหลังจากนี้จะได้มีขยายผลจากหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ที่ได้มีการตรวจยึดไว้ และออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติมต่อไป
การปฏิบัติการในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหานายปรีชา ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดมาตรา 242 และนายยรรยงในข้อหา นำเข้าหรือส่งออกนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรฯ นำยางพาราเข้ามาในหรือส่งออกยางไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต/
ขอบคุณข้อมูล เนื่อข่าวจากไพโรจน์ รัตนรัตน์ จ.ระนอง
