ทหารระนองรวบปุ๊ 5 ศพขณะหนีกบดานระนองบ้านเกิด
ระนอง-ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ จนท.ชุดเฉพาะกิจ ทหารร้อย ร.2521 กองกำลังเทพสตรี ได้จับกุม นายธีรพล ปิ่นอมร หรือ นายปุ๊ อายุ 39 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงคนในครอบครัวเสียชีวิตรวม 5 ศพ โดยเหตุเกิดขึ้น 2 จุด คือ ที่บ้านเลขที่ 177 ม.1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ที่ ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ขณะที่นายธีรพล เดินทางหลบหนีการติดตามของ จนท.มายัง จ.ระนองบ้านเกิด โดยจับกุมได้ขณะเดินทางลักลอบเข้ามายัง จ.ระนองที่ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งทาง จนท.ทหารชุดจับกุมยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก เพียงแต่แจ้งว่ากำลังนำตัวผู้ต้องหามายังหน่วยทหารชุดเฉพาะกิจ 2521 ที่วัดมัชณิมธาราม หรือวัดป่าช้า ตั้งอยู่ ม.1 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 66/2 ม.1 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งเป็นบ้านของ นางหอมมะลิ ปิ่นอมร อายุ 58ปี มารดาของ ”ปุ๊ 5ศพ” จากกรณี นายธีรพล ปิ่นอมร หรือ นายปุ๊ อายุ 39 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงคนในครอบครัวเสียชีวิตรวม 5 ศพ โดยเหตุเกิดขึ้น 2 จุด คือ ที่บ้านเลขที่ 177 ม.1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ นายวิรัตน์ กิ่งแก้ว อายุ 48 ปี พ่อตา และนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ลูกสาวซึ่งเป็นภรรยาของนายธีรพล เสียชีวิต อีกจุดคือ ที่บ้านเลขที่ 71 ม.2 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ นายธีรพล ใช้ปืนยิง นางน้ำผึ้ง อินทรสิทธิ์ อายุ 48 ปี แม่ยาย, นางน้ำผา อินทรสิทธิ์ อายุ 48 ปี พี่สาวฝาแฝดของนางน้ำผึ้ง และนางกนกวรรณ อินทรสิทธิ์ อายุ 53 ปี พี่สาวของนางน้ำผึ้ง เสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
โดย นางหอมมะลิ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากทราบข่าวตนเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายไม่น่าไปทำอะไรแบบนี้เลย โดยหลังจากที่ก่อเหตุ นายธีรพล ได้โทรมาหาตนและบอกว่าฝากดูแลลูกทั้ง 3คน ซึ่งเป็นลูกจากภรรยาคนแรกที่ตนเองดูแลอยู่ด้วย โดยตอนนั้นตนเองยังไม่ทราบว่าลูกชายได้ก่อเหตุดังกล่าว จนมารู้จากข่าวและเพื่อนบ้านมาบอกตนเองรู้สึกตกใจมาก และหลังจากดูจากข่าวรู้สึกเสียใจที่ลูกชายไปทุ่มเททรัพย์เงินทองให้แต่บ้านฝ่ายหญิง แต่ที่ผ่านมาลูกชายของตนไม่เคยส่งเงินมาเป็นค่าเลี้ยงดูลูกที่เกิดจากภรรยาเก่าทั้ง 3 คน ที่ตนเองต้องรับภาระเลี้ยงดูเลย โดยก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วลูกชายได้ส่งเงินมาให้ตนเองไว้สร้างบ้านใหม่ จำนวน 2,000,000 บาท และหลังจากนั้นก็ไม่เคยส่งเงินค่าเลี้ยงดูหลานทั้ง 3คนอีกเลย ที่ผ่านมาตนเองก็อาศัยมีรายได้จากการเปิดร้านขายของชำ เพื่อเอามาเป็นค่าเลี้ยงดูหลานทั้ง 3คน มาโดยตลอด
นางหอมมะลิ ยังได้เปิดเผยต่ออีกว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าลูกชายของตนไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนมีฐานะร่ำรวยนั้น ตนเองไม่ทราบ รู้แต่ลูกชายได้ออกจากบ้านไปทำมาหากินอยู่ ตจว. 10ปี กว่าแล้ว โดยลูกชายได้บอกว่าไปทำงานรับเหมาก่อสร้างที่ กทม. และได้นำเงินที่ได้ไปเล่นหุ้นจนมีฐานะร่ำรวยขึ้น และตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก หลังจากทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่จะวิสามัญหากลูกชายขัดขืน หรือต่อสู้ จึงอยากจะบอกลูกชายให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ซะ ซึ่งล่าสุดลูกชายได้มีการติดต่อมาและบอกกับตนว่ารอให้เรื่องเงียบอีกซักพักแล้วจะขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตนเอง
