แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาใน จ.ระนองยังไม่พอใจการปรับค่าจ้างขั้นต่ำที่รัฐบาลประกาศเพิ่มในเขตพื้นที่ จ.ระนองจาก 300 บาทเป็น 310 บาทต่อวัน มองว่าต่ำเกินไป อาจทำให้แรงงานเคลื่อนย้ายสู่จังหวัดชั้นในอีกระลอกเนื่องจากการจ้างงานให้รายได้ที่สูงมาก ด้านนายจ้่างระนองโอดปัญหาเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องไม่ควรที่จะขยายค่าจ้างเพิ่ม
ระนอง—-นายอ่อง มิน เครือข่ายแรงงานต่างด้าวชาวพม่าใน จ.ระนอง เปิดเผยว่าทางเครือข่ายแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่เข้ามาทำงานใน จ.ระนองพอใจหรือไม่ที่มีการประกาศปรับค่าจ้างขั้นต่ำของไทย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ จ.ระนองปรับค่าจ้างจากวันละ 300 บาทเพิ่มอีกวันละ 10 บาทเป็น 310 บาท ซึ่งคงจะไม่ใช่เป็นรายได้ที่น่าพอใจอย่างแน่นอน เพราะเดือนหนึ่งได้เพิ่มเพียงแค่ 300 บาท ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในไทยที่สูงเพิ่มขึ้นมากในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะทำให้แรงงานชาวเมียนมามีการเคลื่อนย้ายเข้าสู่จังหวัดชั้นในของไทยอีกระลอกเพราะทราบว่ายังมีตำแหน่งงานว่างอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีอัตราค่าจ้างเป็นรายเดือนๆละ 10,000-25,000 บาท
แต่หากต้องการให้ลูกจ้างทำงานต่อไปนั้นนายจ้างควรที่จะมีการปรับสวัสดิการต่างๆเพื่อเป็นการจูงใจแรงงานให้ทำงานต่อและทำงานอย่างมีความสุข เนื่องจากพบปัญหาแรงงานต่างด้าวชาวพม่าทั้งที่เข้ามาทำงานใน จ.ระนอง และหลายจังหวัดในประเทศไทย ยังถูกนายจ้างเอาเปรียบทั้งสวัสดิการทั้งยังลดสวัสดิการต่างๆ ลง อาทิเดิมเคยมีที่พักอาศัย ,เสื้อผ้าชุดทำงานให้ แต่ปัจจุบันได้ลดลง ทำให้ลูกจ้างมีภาระเพิ่มขึ้น รวมทั้งปัญหาค่าแรงขั้นต่ำที่ผู้ประกอบการหลายรายหลีกเลี่ยงที่จะจ่ายค่าแรง 300 บาท หันมาจ้างแบบเหมาจ่ายแทน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าวสู่จังหวัดชั้นใน และเมืองใหญ่ที่ให้ค่าจ้างสูงกว่า
นางนฤมล ขรภูมิ อดีตประธานหอการค้า จ.ระนองกล่าวว่าที่ผ่านมาทางนายจ้าง และสถานประกอบการต่างจัดสวัสดิการให้กับแรงงานต่างด้าวเป็นอย่างดี บางกิจการดีกว่าแรงงานไทยมากเนื่องจากหวั่นกลัวว่าแรงงานจะเคลื่อนย้าย แต่ยอมรับว่าอาจจะมีบางส่วนที่ยังมีปัญหาซึ่งจะต้องมีการแก้ไขต่อไป ส่วนอัตราค่าจ้างถือว่าเป็นอัตราที่สูงมากคงจะยังไม่มีการเพิ่มในช่วงนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: