กกต.ระนอง ห่วงยอดบัตรเสียพุ่งเหตุชาวบ้านสับสน
ระนอง—กกต.ระนอง เป็นห่วงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้มียอดบัตรเสียสูงกว่าทุกครั้งเหตุชาวบ้านสับสนในการกาในบัตรที่มีการเปลี่ยนแปลงจากครั้งที่ผ่านมา ที่รอบใหม่นี้กำหนดให้กาเบอร์เดียวได้ผลสามอย่าง นอกจากนี้พบพื้นที่ยังมีกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นเกือบ 2 พันคนที่มีสิทธิครั้งแรกหวั่นไม่เข้าใจ
นายสัญญา แก้วอนันต์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดระนอง กล่าวว่าจากการที่ดำเนินการณรงค์ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งในพื้นที่ จ.ระนอง พบว่ามีปัญหาที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมากในขณะนี้คือยอดบัตรเสียที่อาจจะพุ่งสูงในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นผลจากความเข้าใจที่สับสนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้เพราะกฏหมายเลือกมีการเปลี่ยนแปลงเกือบทุกครั้งซึ่งชาวบ้านที่ไม่ติดตามข่าวอาจจะยังเข้าใจแบบเดิมโดยยึดติดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาคือรับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้วคนที่รัก พรรคที่ชอบกากบาทสองครั้งสองช่อง
แต่ในการเลือกตั้งรอบใหม่ 24 มี.ค.2562 นี้ มีการแก้ไขการรับบัตรเลือกตั้งเป็นการรับบัตรใบเดียว และกากบาทได้ครั้งเดียวตรงหมายเลขผู้สมัครที่ตนเองชอบหรือตั้งใจเลือก ส่วนในซีกที่เป็นรายชื่อพรรคการเมืองนั้นไม่สามารถทำเครื่องหมายใดๆได้ ซึ่งจุดนี้จะสับสนเพราะประชาชนส่วนใหญ่จะชอบผู้สมัครกับพรรคคนละคนกันซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นได้และนำมาซึ่งบัตรเสียที่ทาง กกต.ไม่อยากให้เกิด แต่พบว่าที่ผ่านมา จ.ระนองเป็นอีกพื้นที่ที่มีบัตรเสียในการเลือกตั้งแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 มีบัตรเสีย 7,182 ใบคิดเป็นร้อยละ 8.14 จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งในส่วนของผู้มีสิทธิในจ.ระนองรอบใหม่นี้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นครั้งแรกคือกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นเกือบ 2,000 คน ซึ่งอาจจะทำให้บัตรเสียเพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดทาง กกต.พยายามเข้าไปจัดกิจกรรมให้ความรู้แต่รวบรวมกลุ่มคนดังกล่าวได้เพียง 200 คนยังพบว่ากระจัดกระจายและรวบรวมไม่ได้อีกกว่าพันคน ซึ่งถือเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง
ดังนั้นในวันเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 เน้นย้ำว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งรับบัตรเลือกตั้งใบเดียว เข้าคูหากาได้ 1 ช่องตรงช่องว่างข้างหมายเลขผู้สมัคร โดยเลือกกาผู้สมัครเพียงหมายเลขเดียว หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครผู้ใดให้ทำเครื่องหมายกากบาท ในช่องไม่เลือกผู้สมัครใด ส่วนซีกของชื่อพรรคการเมืองไม่สามารถกากบาทได้ “รับใบเดียว กาเบอร์เดียว ได้ผลสามอย่าง” หมายถึงได้ ส.ส.เขต ,นำคะแนนของผู้สมัครทุกคนทุกเขตของทุกพรรคที่ส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมาคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค ,และพรรคที่มี ส.ส.ไม่น้อยกว่า 25 คน มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลซึ่งพรรคมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฏรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: