ระนอง – ชาวบ้านในจังหวัดระนองต่างออกมายืนยันว่า สูตรยามหัศจรรย์ของทวดคล้ายที่สามีนางกำไลทิพย์ผู้ป่วยมะเร็งใกล้ตายนำมาต้มให้ภรรยาดื่มกินจนมีชีวิตรอดทุกวันนี้ มหัศจรรย์จริงๆ ไม่ใช่จะรักษาได้เฉพาะมะเร็งยังมีโรคอื่นๆ ที่ผู้ดื่มกินแลบ้วยืนยันว่าโรคร้ายภายในตัวมลายสิ้น
ข่าวน่าสนใจ:
- งานช้าง หนุ่มทับปุดขี่ช้างแห่ขันหมาก 10 เชือกไปขอเมีย พ่อยกช้างให้เป็นของขวัญ 1 เชือก
- นบ.ยส.24 บูรณาการร่วมกับกลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สสจ.นครพนม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือตรวจพื้นที่อาคารหลังศูนย์ฟื้นฟู…
- สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานผ้าพระกฐินทอดถวาย ณ วัดเขาไกรลาศ หัวหิน
- คิดจะค้ายาฯ ขอให้..คิดถึงคุก!!
นายมานพ แงสังข์ อายุ 61 ปี ชาวบ้าน ต.บางนอน อ.เมืองระนอง กล่าวว่า ตนมาดื่มยาของทวดคล้ายที่บ้านนายสุริยะ หนูดาด ต้มแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเป็นวิทยาทาน หลังได้ต้มให้นางกำไลทิพย์ดื่มจนหายจากมะเร็ง เมื่อตนรู้ก็สนใจจึงขับรถมอเตอร์ไซด์มาสังเกการณ์ ดูช่วงแรกมีการต้มเพียงหม้อเดียว ชาวบ้านที่ผ่านไปมาก็ยังไม่มีใครสนใจมากนัก แต่ตนเห็นว่าผู้ที่ต้มมีความตั้งใจจริงๆ อยากจะเอาของดีที่พบมาแจกจ่ายผู้คนที่ทุกข์ยากจากโรคภัยไข้เจ็บให้บรรเทาหรือหาย แล้วแต่ระยะของอาการตนเองป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ไปรักษาในสถานพยาบาลมาแล้ว แต่ยังมีอาการน่าเป็นห่วง ถ่ายเป็นเลือดทุกครั้ง
แต่ปรากฏว่าเมื่อได้ดื่มน้ำยาดังกล่าวเป็นเวลาติดต่อกันนาน 2 เดือน โดยดื่มกินเช้าเย็นตามสูตร ปรากฏว่าขณะนี้การขับถ่ายเป็นปกติไม่มีเลือดออกอีกต่อไป ตนดีใจมากจึงได้บากเล่าเรืองราวดังกล่าวแก่เพื่อนๆ จึงพบว่าหลายคนสนใจเดินทางมาดื่มเพื่อรักษาโรคของตนเอง และทราบว่าอาการหลายคนต่างดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์เช่นกัน
นางประทุม บุตรศรี ชาวบ้าน ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง กล่าวว่าเป็นภูมิแพ้อย่างรุนแรงมักจะมีอาการหอบทุกครั้งที่กำเริบ จึงตัดสินใจเดินทางมาดื่มน้ำยาดังกล่าว ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะหายหรือไม่ เพราะเพิ่งดื่ม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือในตอนกลางคืนมีความรู้สึกว่านอนหลับดีขึ้น ตื่นเช้ามามีความสดชื่น ไม่มึนศรีษะเช่นที่ผ่านมา
นายสุรินทร์ ภักดี ชาวบ้าน ต.หงาว อ.เมืองระนอง กล่าวว่า ตนมีโรคประจำตัวคือโรคเข่าเสื่อม ปวดเมื่อยตามตัว ไม่ค่อยมีแรง แต่เมื่อดื่มยาดังกล่าวได้เพียง 3 วันปรากฏว่าอาการเริ่มดีขึ้นเดินได้สะดวกขึ้น เรี่ยวแรงเริ่มมีสามารถทำงานได้เกือบทั้งวัน ยอมรับว่าทึ่งจริงๆ กับผลที่ออกมา
นางเล็ก อินพรหม ชาวบ้น อ.กะเปอร์ กล่าวว่า ตนเป็นภูมิแพ้เป็นหวัดบ่อยทำให้ใช้ชีวิตด้วยความลำบาก แต่เมื่อมาดื่มยาดังกล่าว ปรากฏว่าน้ำมูกที่ไหลทั้งวันเริ่มหายไป จึงตั้งใจที่จะมากินต่อไป ส่วนเพื่อนบ้านตนเองป่วยเป็นมะเร็ง เมื่อมาดื่มน้ำยาดังกล่าวประมาณ 1 เดือน ปรากฏว่าก้อนมะเร็งที่พบมีขนาดเล็กลง
สำหรับเรื่องราวมีอยู่ว่า มีผู้ป่วยมะเร็ง ชื่อนางกำไลทิพย์ ทองศรีทอง สามีชื่อนายสุริยะ หนูดาด ชาวบ้าน ต.เขานิเวศน์ จ.ระนอง โดยภรรยาคือนางกำไลทิพย์ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดระยะสุดท้ายใกล้ตาย อยู่ได้ไม่เกิน 1 เดือน ตามที่แพทย์ประเมิน อาการที่ปรากฏคือเลือดออกทั้งทางจมูก ปาก ช่องคลอด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
สามีเล่าว่า เมื่อแพทย์เห็นสภาพของภรรยาแล้วส่ายหัว แทบทุกคนบอกเหมือนๆ กันคือหมดปัญญาเยียวยารักษา พร้อมบอกให้นำภรรยากลับไปบ้าน เพราะดูจากอาการน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน โดยโรงพยาบาลแรกที่ไปคือโรงพยาบาลระนอง แพทย์เห็นอาการแล้วบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่ตนและครอบครัวไม่ยอมแพ้ ดั้นด้นไปภรรยาไปโรงพยาบาลศิริราช เมื่อหมอที่โรงพยาบาลศิริราชเห็นต่างก็บอกไม่สามารถรักษาได้และไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ได้เกิน 1 เดือน
สุดท้ายตนเอง ภรรยา และลูกสาว ก็ต้องซมซานนำภรรยากลับมานอนรอความตายที่บ้านเกิด แต่คนเราเมื่อโชคชะตาไม่ถึงคาดอะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อบุตรสาวคือ นส.กรรณิการ์ที่มีกำหนดจะเดินทางไปสอบที่บ้าน จ.นครศรีธรรมราช บ้านของย่า (แม่ของพ่อ) คือบ้านนางห้วย เวชะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดพ่อ
ปรากฏว่าบุตรสาวก็ไปบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวที่ระนองให้คุณย่าห้วยฟัง เมื่อคุณย่าได้ฟังก็นึกได้ว่ามีคุณทวดชื่อทวดคล้ายเคยให้ของดีไว้อย่างหนึ่ง คือตำรายาแผนโบราณที่รักษาโรคได้สารพัด เมื่อนึกได้ดังนั้น ก็รีบค้นหาภายในตัวบ้านไม่นานก็เจอก็รีบเปิดอ่านพบตำรายารักษามะเร็ง 20 ชนิด จึงรีบจดให้รายละเอียดของตัวยานำให้ญาติรีบไปซื้อหาตัวยา เพื่อนำมาให้หลานนำมาต้มให้แม่ดื่มกินที่ระนอง เพื่อเยียวยารักษาชีวิตของแม่ที่นอนรอมร่อด้วยอาการขั้นตรีทูต โดยคุณย่าห้วยย้ำว่าต้องหายแน่นอน โดยย่าห้วยกล่าวอย่างมั่นใจเป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยาดี ลูกสาวที่ชื่อน้องกรรณิการ์ก็รีบนำตัวยามาให้พ่อต้มทันทีปรากฏว่าเมื่อแม่ดื่มตัวยาดังกล่าวได้ 3 วันเลือดที่ออกตามที่ต่างๆ ของร่างกายทั้งที่ปาก จมูก และช่องคลอดก็หยุดไหลร่างกายเริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้น จนปัจจุบันสามารถมีชีวิตอยู่ได้มาแล้วกว่า 4 เดือน ทั้งที่หมอบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ และไม่ได้ใช้ยาแผนปัจจุบันแต่ประการใด ดื่มแต่เพียงยาสมุนไพรสูตรทวดคล้ายที่ได้มาเพียงอย่างเดียว และจากการที่แน่ใจว่าสูตรยาที่ได้มาเป็นของจริง จึงมีความคิดว่า หากนำมาช่วยคนที่ทนทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยด้วยสารพัดโรค ไม่เฉพาะเพียงแต่มะเร็ง ก็น่าจะได้อานิสงค์แก่วงตระกูล และแก่ทวดคล้ายเจ้าของสูตรตำรายาดังกล่าว จึงได้ทดลองต้ม และแจกผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาพร้อมบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาให้ฟัง
จนผู้คนหลายคนเริ่มทดลองดื่ม และพบว่าอาการดีขึ้นจึงกลายเป็นการบอกต่อ จากหม้อต้มยาหม้อเดียวปัจจุบันต้องเพิ่มถึง 8 หม้อ ขนาดใหญ่ และยังมีผู้ใหญ่ใจดีที่ทราบข่าวก็ได้ให้ความช่วยเหลือทั้งอุปกรณ์และหาซื้อตัวยามาให้ต้ม โดยตัวยาแต่ละชุดจะมีราคา ชุดละ 2 พันบาท ซึ่งทางตนจะไมได้เรียกร้องใดๆ แก่ชาวบ้านที่มีดื่มกินเพื่อรักษาโรค เพราะรู้ว่าแต่ละคนมาก็ด้วยความทุกข์โศกแทบทั้งสิ้น เมื่อเขามีความหวังหรือเขาหายจากโรคนั่นคือสิ่งที่เราดีใจและยินดีแล้ว และยินดีที่จะต้ม และเปิดบริการให้ทุกๆคนมาดื่มกินฟรีได้ทุกวันและสามารถมาได้ตลอดทั้งวัน ส่วนข้อปฏิบัติเล็กๆน้อยที่ต้องปฏิบัติประการแรกคือการลงลายมือชื่อยินยอมว่าเป็นผู้ตกลงใจที่จะดื่มเอง ประการต่อมาคือให้จุดธูปขอขมาและขอบคุณทวดคล้ายเจ้าของตำรายา แค่นี้ก็สามารถดื่นกินได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: