ระนอง-ผู้ว่าราชการ ระนอง ลงพื้นที่ อ.กระบุรี เพื่อรับฟังและแก้ปัญหาในด้านต่างๆ ให้ชาวบ้าน ถึงกับอื้งหลังเดินทางเข้าไปสำรวจหมู่บ้านในพื้นที่หลังเขา พบชาวบ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้รวม 35 ครัวเรือนมากว่า 10 ปี ดำเนินชีวิตระจำวันอย่างยากลำบาก เร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือ
นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ลงพื้นที่ หมู่.8 บ้านบางพรวด ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง เพื่อเยี่ยมเยียนและรับฟังปัญหาของชาวบ้าน พร้อมด้วยนายศิริพงศ์ ศรีพยางค์ นายอำเภอกระบุรี ผู้นำท้องถิ่น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไปดูบริเวณการก่อสร้างฝายคลองบางพรวด เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของประชาชนในพื้นที่ด้วย
สำหรับ หมู่ที่ 8 บ้านบางพรวด มีประชากรประมาณ 600 ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นชาวอีสานเข้ามาอาศัย จากหลากหลายจังหวัด อาทิ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ บุรีศรีสะเกษ ซึ่งชาวบ้านส่วนมากมีอาชีพทำสวน ปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน จากการรายงานและพูดคุย พบปัญหา คือ การไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน จำนวน 475 ครัวเรือน เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขา
นอกจากนี้ที่สร้างความประหลาดใจแก่ ผวจ.ระนองอย่างมากคือ พบว่าชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวยังไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมจำนวน 35 ครัวเรือน สร้างความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก จึงเร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เข้าไปดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนสภาพพื้นที่น้ำไม่ท่วม แต่มีปัญหาน้ำไม่พอในช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะน้ำสำหรับทำการเกษตร ซึ่งปัจจุบันทางชลประทานกำลังดำเนินการก่อสร้างฝายในพื้นที่ คาดว่าหากแล้วเสร็จจะสามารถช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในหน้าแล้งได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง รับฟังปัญหา และกล่าวว่า จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเรื่องไฟฟ้าจะเร่งประสานกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาดู ให้ ส่วนเรื่องไม่มีเอกสิทธิ์ทำกินกว่า 70 % นั้น จะให้ทางที่ดินได้เข้ามาช่วยดำเนินการตามขั้นตอนให้เข้าอยู่ในระบบ เพื่อช่วยเหลือต่อไป รวมถึงการช่วยเหลือผู้เป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งมีประมาณ 5-6 ราย ส่วนเรื่องที่ผู้ว่าฯขอคือให้ชาวบ้านช่วยกันดูแล คือ เรื่องการรักษาพื้นที่ป่า ไม่บุกรุกทำลายป่า
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้ลงพื้นที่ไปบ้านนางชม อายุ 87 ปี อาศัยอยู่คนเดียว หมู่ที่3 ตำบล .จ.ป.ร. อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากบ้านเป็นพื้นที่ต่ำ และมีการตัดถนนผ่านโดยถนนสูงกว่าบ้าน เมื่อเวลาฝนตก น้ำจึงไม่สามารถระบายได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองได้พูดคุย หารือ และมอบแนวทางการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทางหลวงชนบทจังหวัดระนอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง เทศบาลตำบล จ.ป.ร. และผู้นำท้องถิ่นที่จะเข้ามาช่วยดำเนินการ เช่น การขุดลอกคู และ ทำท่อระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน และก่อนกลับได้มอบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ไว้ให้นางชมด้วย
