ระนอง สนธิกำลังรวบเอเย่นต์ชาวเมียนมาพร้อมยาไอซ์จำนวน 2,447 กรัม
ระนอง-วันที่ 2 ก.ค 2562 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรระนอง อ.เมือง จ.ระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ ผบก.ภ.จว.ระนอง ทหาร ฉก.ร.25 กองกำลังเทพสตรี พร้อมตำรวจ ป.ป.ส.ภาค 8 ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด จำนวน 1 ราย คือ นาย ชิท โก อู้ อายุ 36 ปี พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาไอซ์ น้ำหนัก 2,447 กรัม พร้อม โทรศัพท์มือถือเครือข่ายประเทศเมียนมาร์ จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์ที่ใช้เครือข่ายในประเทศไทย จำนวน 1 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม
โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายในเบื้องต้น นาย ชิท โกอู้ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ ให้การรับสารภาพว่าได้มีการติดต่อกับนายเล็กซึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ เป็นผู้นำยาไอซ์มาส่งให้ตนจำหน่ายโดยจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 3 แสนบาท โดยส่งมาให้ที่โรงอวน ตั้งอยู่เลขที่ 205/1 5 ซอยสามัคคีหมู่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จำนวน 3-4 ครั้งแล้ว ปริมาณยาไอซ์จำนวน 3 กิโลกรัม และถ้ามีเงินโอนให้ก่อนก็จะทยอยส่งมาให้เป็นระยะๆ
สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.สส.๓.จว.ระนอง ได้ประสานงานด้านการข่าวกับหน่วยงานทั้งฝ่ายทหาร ปกครองและสำนักงาน ปปส ภาค 8 จากกรณีมีข่าวการจับกุมยาไอซ์กลางทะเลในประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมาร์) จำนวนมากที่ผ่านมา จึงทำให้มีการเฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวของเครือข่ายยาเสพติดตามแนวชายแดนตลอดจนการลักลอบนำเข้ามาในพื้นที่จังหวัดระนอง จนกระทั่งวันที่ 26 มิถุนายน 62 เวลา 13.20 น.เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามจับกุม นายอนุสรณ์ วงศ์ฉิม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300/44 ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) น้ำหนัก 91.4 กรัม พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
จากการจับกุมนายอนุสรณ์ จึงได้ทำการควบคุมตัวในการขยายผล ซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากนายอนุสรณ์ว่ามีชาวเมียนมาร์ ชื่อนายหนุ่ย มาเปิดโรงอวนและมีเรืออยู่หลายลำ ได้นำยาไอซ์มาจากประเทศเพื่อนบ้านมาส่งให้จำหน่ายจึงได้ทำการสืบสวนและติดตามจนสามารถจับกุมตัวนาย ชิท โกอู้ ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง ยาไอซ์ 2,477 กรัม โทรศัพท์มือถือเครือข่ายประเทศเมียนมาร์ จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือเครือข่ายประเทศไทย จำนวน 1 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม จากนั้นเจ้าหน้าที่จะได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสืบสวนสอบสวน สภ. เมืองระนอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ////////
