ส.ส.ระนองลงพื้นที่หาข้อมูลแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง
ระนอง-นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดระนอง กล่าวว่า ในวันนี้ 19 ส.ค. 2562 ตนได้เดินทางลงพื้นที่บ้านอ่าวเคย อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เพื่อดูสภาพที่ที่เกิดเหตุน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง จนกินลึกเข้ามายังพื้นที่ของชาวบ้านได้รับความเสียหายและจมหายลงไปในทะเล ซึ่งตนได้เข้าขอข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เพื่อหาแนวทางที่จะให้หน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางแก้ไขดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านต่อไป
นาย ปรีชา ปินัง กำนัน ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง กล่าวว่า บ้านของตนเองเป็นบ้านสุดท้ายที่ยังอาศัยอยู่ที่อ่าวเคยบริเวณริมชายหาด และได้ย้ายออกจากพื้นที่ขึ้นไปสร้างบ้านใหม่บนที่สูงด้านข้างภูเขาแทนเนื่องจากบริเวณที่ตนอยู่อาศัยไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อหลังหลังเกิดน้ำทะเลกัดเซาะพัดกลืนชายหาดเข้ามาหลายร้อยเมตร ทำให้ชาวบ้านหลายครัวเรือได้ย้ายไปก่อนหน้า รวมทั้งสวนมะพร้าวกว่า 30 ไร่ที่ปัจจุบันกลายเป็นทะเลหมดแล้ว
นายปรีชากล่าวว่า กระแสคลื่นลมที่รุนแรงได้กัดเซาะให้ชายฝั่งกินลึกเข้ามาในพื้นที่ชาวบ้านอาศัย และทำกิน แล้วกว่า 800 ม. จากแนวเดิมในช่วงระยะเวลาเพียงปีเศษ ซึ่งพิสูจน์ได้จากซากต้นไม้ และตอไม้ที่จมอยู่กลางทะเลเป็นจำนวนมาก ทางชาวบ้านจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่ชาวบ้านในระแวกดังกล่าวซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 20 ครัวเรือนจะต้องย้ายหนีออกจากพื้นที่ อันเป็นผลจากการกัดเซาะที่กินลึกเข้ามาของน้ำทะเลจนไม่สามารถที่จะอยู่อาศัยอีกต่อไปได้ รวมถึงกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านกว่า 300 ลำที่เคยอาศัยเป็นที่พักเรือประมงในบริเวณอ่าวดังกล่าวต้องย้ายหนีไปหาจุดพักยังพื้นที่อื่น
“ในช่วงแรกชาวบ้านคิดว่าเป็นเหตุการณ์ปกติของพื้นที่ชายฝั่ง แต่จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้พบว่าไม่ปกติ เนื่องจากการกัดเซาะเกิดขึ้นเร็วมาก ตนซึ่งสร้างบ้านอยู่บ้านเลขที่ 12/3 ม.4 บ้านอ่าวเคย ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในแนวที่เกิดการกัดเซาะพบว่าเดิมที่ดินของตนมีมากกว่า 5 ไร่ ตลอดแนวชายหาดแต่ขณะนี้กลายเป็นทะเลไปแล้วกว่า 2 ไร่ ที่เหลืออีก 3 ไร่กำลังถูกกัดเซาะอย่างรุนแรง โดยตัวบ้านซึ่งเคยตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งมากถึง 500 ม. แต่ขณะนี้พบว่าเหลือเพียง 200 ม.ก็จะถึงบ้านตนแล้ว ส่วนบ้านของชาวบ้าน 2-3 หลังที่ตั้งอยู่ริมทะเลได้ถูกกัดเซาะจมหายไปในทะเลหมดแล้ว รวมถึงต้นไม้ ต้นมะพร้าวจำนวนมากที่หักโค่นอันเป็นผลจากดินที่ถูกน้ำพัดกัดเซาะเข้ามา”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: