ตร.ทางหลวงระนองเอาจริงกวดขับจับความเร็ว หวังลดอุบัติเหตุทางถนน
ระนอง-ด.ต.อนุมาทย์ ปัตเมฆ หน .หน่วยบริการตำรวจทางหลวง ระนอง กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงระนองกำหนดมาตรการควบคุมและลดความเร็วยานพาหนะบนท้องถนนให้เหมาะสม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และช่วงถนนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในพื้นที่ จ. ระนอง ด้วยการกำหนดความเร็วจำกัด (Speed Limit) ในเขตพื้นที่ชุมชน จึงได้ร่วมกับแขวงการทางระนองในการติดป้ายแจ้งเตือนในเขตที่มีการควบคุม เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
เป็นการที่ใช้เพื่อควบคุมและลดความเร็วยานพาหนะบนท้องถนนให้เหมาะสม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และช่วงถนนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในพื้นที่ จ. ระนอง ตำรวจทางหลวงระนอง”ห่วงใยทุกชีวิต เป็นมิตรทุกเส้นทาง” “ทำทุกอย่างด้วยสำเพราะเราคือตำรวจทางหลวง”บางริ้นระนอง”
สาเหตุของอุบัติเหตุในประเทศไทย มาจากใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดมากถึง 60เปอร์เซ็นต์ จากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
การกำหนดพื้นที่ควบคุมความเร็วแต่ละถนนขาดการสื่อสารที่ชัดเจนกับประชาชน โดยถนนในเขตเมืองกำหนดความเร็วไว้ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่นอกเมืองอยู่ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยกเว้นมอเตอร์เวย์ที่กำหนดความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ คนที่ใช้ถนนนอกเมืองส่วนใหญ่ใช้ความเร็วเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถนนทางหลวงแผ่นดินกว่า 50,000 กิโลเมตร ประชาชนใช้ความเร็วมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ขณะที่ถนนถูกออกแบบให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง เพราะมีทางแยกทางตัดผ่านชุมชนเมื่อเกิดอุบัติเหตุความรุนแรงจึงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ถนนบางเส้นยังมีต้นไม้อยู่สองข้าง เป็นปัจจัยเพิ่มระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ จัดว่าเป็นสภาพข้างทางที่อันตรายที่สุดในโลก
ทั้งนี้กฎหมายที่ไม่เข้มข้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไทยติดอันดับประเทศที่มีอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับ 2 ของโลก อย่างไรก็ตามหลายประเทศจำกัดความเร็วอย่างจริงจัง พบว่าอุบัติเหตุทางถนนลดลงอย่างชัดเจน เช่น ออสเตรเลียลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ เนเธอร์แลนด์ลดลง 50 เปอร์เซ็นต์
