ระนอง-จังหวัดระนองโดยนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานการเจรจาจับคู่ธุรกิจ Business matching ไทย – เมียนมา กับตัวแทนนักธุรกิจจากเมียนมา (3 เมือง คือ เกาะสอง มะริด และทวาย ) เข้าร่วมการเจรจา ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาด และพัฒนาคุณภาพ เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจและมูลค่าการค้าชายแดน
นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานการเจรจาจับคู่ธุรกิจ Business matching ไทย – เมียนมา โดยมีนางวนิดา อรุโณทัย พาณิชย์จังหวัดระนอง หอการค้าจังหวัดระนอง ประธานสภาอุตสาหกรรม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว หอการค้าจากสหภาพเมียนมา ตัวแทนนักธุรกิจจากไทยและเมียนมา (3 เมือง คือ เกาะสอง มะริด และทวาย ) เข้าร่วมการเจรจา ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาด และพัฒนาคุณภาพ เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจและมูลค่าการค้าชายแดน กับประชาคมอาเซียนโดยเฉพาะการค้ากับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งมีชายแดนติดต่อกัน รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาดของสินค้าและบริการต่างๆ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการทุกระดับ โดยได้ทำการแบ่งกลุ่มการเจรจาออกเป็นสาขาต่างๆเพื่อให้ง่ายต่อการเจรจา เช่น สาขาการเกษตร สาขาการท่องเที่ยว สาขาการก่อสร้างและที่อยู่อาศัย สาขาการประมง เป็นต้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
- นนทบุรี กระบะเลี้ยวตัดหน้า จยย.พุ่งชน ร่างหนุ่มชาวลาวลอยก่อนตกกระแทกพื้นดับ
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- มท.1 เยือนจังหวัดนครพนม เปิดงานมหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม ประจำปี 2567 ครั้งที่ 21 ผลักดัน Soft Power อำเภอศรีสงคราม
จากกรอบข้อตกลงการเปิดเสรีทางการค้าของกลุ่มอาเซียนโดยกำหนดให้แต่ละประเทศต้องลดกำแพงภาษีสินค้า ซึ่งการลดลงของภาษีในแต่ละกลุ่มสินค้า จะส่งผลดีและผลเสียต่อการค้าการลงทุน ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดคือการเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ สำหรับในส่วนของการค้านอกจากการรับมือการสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่จะทะลักเข้ามายังไทยแล้ว ก็จะต้องเร่งหาช่องทางที่จะขยายตลาดการค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะถือเป็นโอกาสที่ดีที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนที่จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วย ซึ่งการขยายของตลาดการค้า ก็จะส่งผลให้การลงทุนขยายตัวตามไปด้วย
นายธีระพล ชลิศราพงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า จากการที่ได้พบกับนักธุรกิจชาวพม่าโดยตรงทำให้ทราบว่าแท้จริงนักธุรกิจชาวพม่า โดยเฉพาะทางพื้นที่ตอนใต้ของประเทศในย่านมะริดและทวาย ซึ่งเป็นเขตพื้นที่เศรษฐกิจ,อุตสาหกรรมที่สำคัญของพม่าในขณะนี้ ต้องการค้าขาย หรือร่วมทำธุรกิจกับนักธุรกิจไทยมากกว่านักธุรกิจในประเทศอื่น โดยเฉพาะจีน ที่นักธุรกิจชาวพม่ามองว่าการค้าขายที่ไม่ได้สินค้าคุณภาพแล้ว การขนส่งสินค้ายังเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่การค้าขาย หรือทำธุรกิจร่วมกับนักธุรกิจไทยยังติดปัญหาหรือความหวาดระแวงต่อกัน ซึ่งสามารถขจัดได้ด้วยการพบปะพูดคุยกันบ่อยๆ หากทำได้ตนเชื่อว่าการค้าขาย การลงทุนในย่านทางตอนใต้ของประเทศจะสามารถขยายตัวได้อีกมาก ทั้งยังเป็นช่องทางที่สำคัญที่นักธุรกิจไทยจะขยายการค้า การลงทุน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: