ในหลวง ร.10 พระราชทานพระราชกระแสทรงชมเชยจิตอาสาระนอง
ระนอง- (10 ต.ค. 2562) เวลา 09.35 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.กัลย์สรรค์ จันทรเสน อัญเชิญพระราชกระแสทรงชมเชยแก่ นายประภาส เรืองจันทร์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ที่ 5 ตำบลมะมุ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ที่บ้านของนายประภาส เรืองจันทร์ และมอบกระเช้าพรีเมี่ยมอุ่นไอรัก ให้ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือนายประภาส เรืองจันทร์ จำนวน 5 ราย โดยมีนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นำหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมเหล่าจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เข้าร่วมพิธี
ข่าวน่าสนใจ:
พล.ต.กัลย์สรรค์ ได้อัญเชิญพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมเชยนายประภาส เรืองจันทร์ ว่า นายประภาส เรืองจันทร์ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และมีจิตอาสามานานหลายสิบปี อีกทั้งเป็นผู้ที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี และดำรงชีวิตด้วยความดีงามเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวมในชุมชน ควรได้รับการยกย่องชมเชยให้เป็นแบบอย่างแก่บุคคลทั่วไป
นายประภาส เรืองจันทร์ กล่าวว่า ตนเองดำรงชีวิตมาจนอายุ 74 ปี ด้วยจิตอาสาที่ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน ปฏิญาณตนว่าจะทำเพื่อชุมชนและช่วยเหลือผู้อื่น จนวันนี้ได้รับพระราชทานสิ่งของและพระราชกระแสชมเชยจากในหลวง ก็รู้สึกตื้นตันและปิติเป็นอย่างมาก ซึ่งตนก็ขอปฏิญาณว่าจะประพฤติตนเพื่อดูแลชุมชนเป็นจิตอาสาตลอดไป
โดยในวันนี้นอกจากจะมีพระราชกระแสทรงชมเชย และพระราชทานสิ่งของแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงให้นายประภาสสมัครเข้ารับราชการเป็นข้าราชบริพารในพระองค์ สังกัดสำนักพระราชวัง ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง โดยอยู่ในความดูแลของสถานีตำรวจภูธรปากจั่น และได้ให้เจ้าหน้าที่นำตัวนายประภาสไปตรวจสุขภาพอย่างละเอียดต่อไปด้วย ซึ่งในบริเวณพิธีได้มีหน่วยแพทย์พระราชทานและโรงครัวพระราชทานมาเปิดบริการให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมพิธีในวันนี้ด้วย
ทั้งนี้โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อสานต่อพระราชปณิธานในการทำดีเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน และสร้างจิตสำนึกที่ดีให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับชุมชนจนถึงระดับประเทศ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชนทุกคน ที่มีจิตอันเป็นกุศลในการทำความดีเพื่อส่วนรวม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: