ระนอง-ทหารตำรวจ จ.ระนอง สนธิกำลังจับกุมชาวเมียนมา ชาย-หญิง 11 คน และ ผู้นำพาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายได้ 1 คน สอบสวนทราบว่าเตรียมนำส่งแรงงานไปยัง จ.ภูเก็ต จ.สงขลาและประเทศมาเลเซีย
ร.ท.คทายุทธ์ เศรษฐมาน ผบ.ร้อย ร.2521 ทหารชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี กล่าวว่า ได้นำกำลังร่วมกับตำรวจชุด นปพ.กก.สส.ภจว.ระนอง นำกำลังซุ่มสกัดจับรถกระบะนำพาแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย ที่บริเวณบ้านคลองจั่น ตำบล จปร. อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง เขตรอยต่อหมู่ที่ 12 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวพม่าได้จำนวน 11 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 1 คน รถยนต์จำนวน 1 คัน คนขับ 1 คัน แรงงานส่วนใหญ่ต้องการไปทำงานที่จังหวัดหาดใหญ่ เสียค่าใช้จ่ายคนละ 6,000 บาท และมีบางส่วนต้องการเดินทางไปมาเลเซีย ต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 10,000 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้างชาวเมียนมาออกจากพื้นที่จังหวัดระนองไปยังจังหวัดชุมพร โดยขบวนการดังกล่าวได้ลักลอบนำพาแรงงานชาวเมียนมาข้ามมาจากตำบลบกเปี่ยน จังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมาโดยอาศัยช่องทางธรรมชาติ หัวหน้าชุดจับกุมได้รายงานให้ทราบ จึงสั่งการให้ออกไปทำการเฝ้าซุ่มในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
จากนั้นได้มีรถยนต์กระบะแบบตอนเดียวสีขาว ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ก.1722 ชุมพร วิ่งผ่านมา ซึ่งตรงกับที่ได้รับรายงาน เจ้าหน้าที่จึงออกมาจากที่ซุ่มพร้อมแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ แต่คนขับรถ กลับเร่งเครื่องหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ตามจนสามารถควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวได้พร้อมคนขับรถกระบะ ชื่อ นายธีรพงษ์ ปราบมาก อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.4 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนมีอาชีพทำสวนปาล์มแต่ช่วงนี้ราคาปาล์มตกต่ำรายได้ไม่พอค่าผ่อนส่งรถและใช้จ่ายภายในครอบครัว ตนจึงมาหารายได้พิเศษโดยได้รับค่าจ้างหัวละ 1000 บาท
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าแรงงานพม่าส่วนใหญ่มาจากจังหวัดเกาะสอง ของประเทศพม่า ต้องการเดินทางไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต และที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเสียค่าใช้คนละ 6,000 บาท และมีบางส่วนต้องการเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 10,000 บาท โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อจะได้สืบหาผู้ต้องหาและขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวมาดำเนินคดีต่อไปก่อนจะส่งให้ร้อยเวรเจ้าของพื้นที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ////////
