X

น่าน ปรับตัวรับวิกฤต พอเพียงตามรอยพ่อ

จังหวัดน่าน รับผลกระทบโควิด-19 แบกจอบเข้าหลังบ้าน หันมาใช้วิถีตามพ่อสอน เศรษฐกิจพอเพียง ยังมีกำลังช่วยตัวเองได้ช่วยตัวเองก่อน ไม่อยู่เฉย

ข่าววันนี้ น่าน วันที่ 10 เมษายน 2563 จากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งรัฐบาลก็คอยบริหารสถานการณ์ให้คลี่คลายไปด้วยดี เพื่อหวังให้โดยเห็นว่าเป้าหมายคือ ให้ประชาชนปรับตัวเพื่อรับสถานการณ์วิกฤตเศษฐกิจที่กำลังตามมา แต่หลายคนกลับมัวแต่เรียกร้องสิทธิ์ว่าตนเองมีสิทธิ์ หรือเฝ้าโทษแต่นโยบายที่มีส่วนที่ได้ แต่ต้องมีส่วนที่เสีย และก็ต้องมีส่วนที่เสียสละ

นายชาตรี หมอสุยะ อายุ 50 ปี ชาวบ้านบ้านม่วงใหม่ หมู่ที่ 3 ตำบลนาปรัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไข้หวัดโควิด 19 ได้ปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิต ซึ่งแต่เดิมประกอบอาชีพขายของชำในหมู่บ้าน แต่เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถไปประกอบอาชีพรับจ้างและทำการเกษตร

จึงไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะมาซื้อของที่ร้านของตนเองประกอบกับหลายคนที่พอมีเงินก็ออกไปหาซื้อของที่ห้างใหญ่มากักตุนไว้ ทำให้ร้านขายของชำตนเองอยู่ในสภาพที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ทำให้รายได้หดหายไปมาก ไม่พอเลี้ยงครอบครัว จึงได้ปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวรัชกาลที่ 9

โดยมีที่ดินท้ายหมู่บ้านของตนเองประมาณ 2 ไร่ ได้ถูกปรับพื้นที่หันมาปลูกพืชผักอายุสั้นโดยเฉพาะพืชผักสวนครัว เช่น ถั่ว  ผักกาด ตะไคร้ กล้วย เพื่อไว้กินเอง ส่วนอาหารโปรตีนก็อาศัยหาปลา กุ้ง หอยจากน้ำห้วยที่อยู่ติดสวน ซึ่งใช้สำหรับรถผักด้วย เริ่มทำมาตั้งแต่ช่วงวิกฤติโควิด 19 ตอนนี้พืชผักพวกนี้เริ่มที่จะให้ผลสามารถเก็บกินได้แล้ว

นายชาตรี หมอสุยะ กล่าวว่า ช่วงนี้ต้องยอมรับสภาพแต่ก็ไม่สิ้นหวัง จึงหันมาทบทวนการอยู่แบบพอเพียงแม้จะไม่มีรายได้มากนักแต่ก็พอที่จะทำให้ครอบครัวตนเองอยู่ได้ไม่เดือดร้อนต้องทำใจให้เข้มแข็ง รู้จักอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ พืชผักที่ปลูกได้หากมากพอก็จะนำออกจำหน่ายยังตลาดในหมู่บ้านและส่วนหนึ่งก็แจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้านที่ขาดแคลน คือรู้จักแบ่งปันช่วยเหลือกันจึงจะสามารถรอดพ้นวิกฤตินี้ไปได้ต่อไป

ส่วนตัวผู้สื่อข่าวกับพบมุมมองอีกด้านของสังคมและมีข้อคิดเห็นส่วนตัวว่า นโยบายที่ออกมาบังคับใช้ก็เหมือนเรื่องตลก มันขัดแย้งกัน เช่นให้ผู้คนอยู่บ้านช่วยชาติเพื่องดกิจกรรม ไม่ให้ผู้คนไปรวมกันห้ามประกอบอาชีพให้สัญญาว่ารัฐจะคอยช่วยเหลือพอถึงเวลาก็แจ้งว่าอาชีพนี้แล้วบอกว่าอาชีพนี้ไม่ใช่ผลกระทบจากโควิด แต่ถูกผลกระทบจากเศษฐกิจต่างหาก ทั้งมีแจ้งให้ชาวล้านอยู่เฉยๆ ก็เพราะอยู่เฉยไม่ได้ แล้วก็รอเฝ้าโทษประชาชนว่าดื้อไร้ระเบียบวินัย

ห้ามไม่ได้หรอก จะให้ชาวบ้านทำอย่าไร เพราะบางคนเขาจะต้องดิ้นรนไม่ใช่เพราะดื้อ หนี้สินและค่าใช้จ่ายบับบุงคับ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ฯลฯ ให้ทุกคนหยุดแต่หนี้สินไม่หยุดตามด้วยมองแต่ตัวเลข คิดเพียงแต่ว่าหากทุกอย่างหยุด ตัวเลขทั้งหมดจะไม่ขยับแล้วรัฐมานั่งชดเชย กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ โดยมาออกแถลงข่าวว่าอาชีพนี้ควรได้ อาชีพนี้ไม่ควรได้

เหมือนจะดี ที่สามารถชี้แจงความโปร่งใสอธิบายเหตุและผลตามอะไรก็ไม่รู้ แต่ผลเสียผลกระทบความขัดแย่งของสังคมตามมาเพราะความเดือดร้อนความจำเป็นมันส่งผลกระทบต่อบริบททางพื้นฐานของสังคมและพื้นฐานชีวิต ไม่ได้ส่งผลกระทบจากอาชีพที่ประกอบการ เช่น เช่นอาชีพค้าขาย บางคนก็เดือดร้อนเพราะอาคารร้านค้าต้องเช่า แต่บางคนบ้านตัวเองเงินลงทุนก็ของพ่อแม่ ที่เป็นข้าราชการบำนาญ ฯลฯ

หรืออาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง การมองของสถิติกับมองว่าควรได้รับการช่วยเหลือ แต่หารู้ไม่บางคนก็ฐานไม่ใช่น้อย เพียงแต่เป็นอาชีพอิสสละ จะตื่นเช้าไปขับหรือตื่นเย็นไปขับก็ได้ แต่นักโปรแกรมเมอร์ ทำงานอินเตอร์เน็ตกลับมองว่า อาชีพนี้ไม่ได้รับผลกระทบนั่งทำงานตรงไหนก็ได้

ซึ่งหลายคนก็มาสงสัยว่าอะไรถึงบอกไม่ได้รับผลกระทบ เขียนโปรแกรม เขียนเว็ปไซต์ขายจะขายให้ใคร รายได้มาจากการโฆษณาห้างร้านปิดตัวกันหมดใครจะจ้างโฆษณา จนเกิดกรณีสาวโพสต์ได้รับการช่วยเหลือ แต่เป็นแค่เศษเงินเย็น ซึ่งก็ต้องรีบก็ออกมาแก้ข่าวว่าน่าจะเกิดการผิดพลาดเพราะใช้ระบบ AI ในการประมวลผลซึ่งเหล่าโปรแกรมเมอร์ก็มาคิดอีก ว่าเป็นการดักจับคำและประมวลผล

ซึ่งก็เกิดคำถามและข้อสงสัยอีก นี่คือการเอื้อประโยชน์ให้เครือบริษัทร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. ใช่ไหม เลยไปไกลถึงความคิดที่มังกรกับจีนเถียงกันว่าเป็นการกระทำของแต่ละฝ่าย คนที่ได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์โดยมากเป็นผู้ก่อหรือวางแผนก่อ เกิดความคิดที่ว่า

ทั้งค่าบ่งชี้ แสดงว่าต้องเป็นคนได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์เป็นคนสร้างไวรัสตัวนี้มา เพราะเขามีห้องวิจัยแห่งหนึ่งในต่างประเทศแถมเครือบริษัทนี้รับเงินชดเชยตั้งมากมาย และปัจจุบันยังสามารถเปิดให้บริการเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนซึ่ง สั่งให้ปิดร้านไม่ให้ดำเนินกิจการ แถมในภาวะที่กลไกทางการตลาดก็ระงับ ทั้งน้ำมันก็ราคาถูกลง แต่ราคาของรายังคงเดิม

แถมไม่มีคู่แข่งจนความคิดที่ว่าช่วยนี่ไม่ได้ใช้เพื่อช่วยประชาชน ช่วยบริษัทยักใหญ่กอบกวย หรือความคิดเริ่มช่วงเวลาเคอร์ฟิวที่บอกว่าเราประกาศเพื่อเป็นการทดลอง ไม่ให้สร้างผลกระทบแต่คนมากเกินไป ซึ่งถูกนำไปไปผนวกกับการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าสามารถออกไปทำข่าวได้ ที่ตอบทันทีทั่งที่ถามไม่หมดประโยชน์ ว่า ได้หรือไม่ว่าไม่ได้ ช่วงเวลานั้นไม่มีข่าวอะไรให้ทำหรอก กับทำให้คิดว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำเรื่องผิดกฎหมายแน่นอนเพื่อไม่ใช้ชาวบ้านเห็นหรือนักข่าวเจอเพราะเขาให้เฉพาะรายบุคคลคงไม่ต้องการให้สื่อที่น่าเชื่อถือไปเห็นและทำข่าว คงอนุญาตให้สื่อที่ใกล้ชิดเพราะรับผลประโชน์ร่วมกันเท่านั้น

และอีกเรื่องต่อจากเรื่องที่ผ่านมา ทำให้บางคนคิดไปไกลถึงว่าภาครัฐทำทั้งหมดกำลังเอาคนติดโรคไปฆ่าเผาทำลายทิ้ง เลยห้ามนักข่าวออก อย่าลืมต้นเหตุของความคิด ในพื้นที่เคยเป็นพื้นที่สู้รบ และคนรุ่นนั้นตอนเล็กๆ เห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเนื่องจากตอนนั้นเข้าเป็นเด็กเล็ก พบเหตุกาณ์สงครามมาด้วยตัวเอง

แต่ที่ร้ายที่สุดกับการรณรงค์อยู่บ้านช่วยชาติ แต่ชาติไม่ได้ช่วยอะไรเลย  ทั้งสถาบันการเงินเอกชนจำพวกเงินด่วนติดล้อที่รากหญ้าเข้าไม่ถึงจากสถานะการเงินที่ต้องมีรายได้คงที่ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ แต่หนักสุดคือหนี้นอกระบบที่เจอคำพูดที่ว่าจะไม่ทันป่วยตายจากโควิดนะ แล้วรัฐบาลฐานตัวเลขก็มานั่งมองทำไมตัวเลขมันไม่ลดก็เลยเกิดข้อสงสัยรัฐมีความจริงใจมากแค่ไหนในการแก้ปัญหา

แค่หยุดทุกอย่างเอาทั้งนักวิชาการแบะนักวิชาเกินมาคุยกันมันจะใช้เวลากี่วันจะไม่แสดง จากนั้นก็ประกาศจัดสรรปันส่วนเสบียงอาหารต้องจัดสรรให้แบบมีประจักรพยานและเที่ยงตรงพอด้วยไม่งั้นก็จะกักตุนพวกพ้องอีก เช่น 30 วันเจอแจกแค่พอกินนะ ไม่งั้นมันจะกินไม่ยอมหยุดจากนั้นหยุดทุกอย่างเลยจะได้ไม่ต้องเปิดที่ปิดที่แล้วจ่ายเงินเมื่อไหร่จะจบ

ใช่ว่าให้ที่ช่วยให้รอดจากสถานการณ์แล้วพ้นสถานการณ์จะกลับมาช่วย หยุดพร้อมกันจนครบคงเหลือส่วนการแพทย์ไฟฟ้าประปา และประกาศไปเลยครบใครไม่ติดโรคแจกคนละหมื่นรับรองจะทำให้การแพร่ระบาดไม่เกิดขึ้นนี่ก็มาลุ้นตัวเลขทุกวัน

แนะนำหน่วยงานบางหน่วยงาน ให้ไปช่วย อสม.ดีกว่า ที่ต้องคอยไปดูผู้กักโรคจริงๆจัดกำลังไปเฝ้าหน้าบ้านประตูบ้านผมว่ากำลังยังเหลือ แถม อสม.รถตัวเองน้ำมันเติมเอง ส่วน รพ.สต.ไม่ต้องพูดถึง รถตัวเองน้ำมันตัวเอง ช่วยหยุดตัดหญ้าเอาน้ำมันมาเติมให้ อสม.ก่อนก็ได้ แก้ปัญหารหน้ากากขาดแคลนแอลกอฮอล์ขาดแคลนได้ทันที่

เพราะกลุ่มนี้น่าจะรู้หมดว่า อยู่ตรงไหนแอลกอฮอล์อยู่ที่ไหน การข่าวกรองนี่จะเดินชนกันตายแล้วจะไม่รู้ได้อย่างไร เดียวเขา  ก็ไปหามาเองแหละครับ เรื่องสุดท้ายช่วยเอาคำ ที่คนปกติชาวบ้านเข้าใจง่ายๆได้ไหม มาใช้ในคำสั่ง จะดีกว่า ขนส่งไปยังที่เอกเทศนั้นแหละคือที่ที่เขาเข้าใจว่า สถานที่รัฐแอบขนคนตามข้อยกเว้นไปฆ่าไปเผาไปทำลาย

คราวหน้าถ้าเป็นคำจำกัดความกรุณาเขียนความหมายที่ต้องการสื่อว่าใช้นิยามกับลักษณใดอย่าใช้ตนเองเป็นศูนย์กลาง เพื่อรุ่นนี้อายุใกล้เคียงกันอย่าลืมว่ามีช่วงหนึ่งหน่วยงาน อปท.เร่งช่วยกันสอนช่วยกันสงเสริมเอามาจัดกิจกรรมแต่งตัวไปเรียน

เนี้ยเรียนสิ่งเนี้ย และมีความรู้มากด้วย ใครห้ามเถียง ถ้าเหตุผลไม่พอ ดูอายุด้วยนี่เด็กหรือผู้ใหญ่ ร้อยละ 80 ตามไปจะไปสุดที่กลุ่มนี้ ควรส่งเสริมว่าไม่ควรปล่อยผู้สูงอายุอยู่กับโทรศัพท์ตามลำพัง เพราะอาจจะถูกอาชญากรหลอกให้ส่งข่าวปลอมโดยไม่รู้ตัว

77ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดน่าน รายงาน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์

ไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์

ลูกเป็ด เฝ้าน่าน