จังหวัดน่าน หนุ่มใหญ่เครียดรับเมียกลับจากทำงานต่างจังหวัดกลับบ้าน ทำบุคคลในบ้านทั้งหมดถูกกักตัวเพื่อป้องกันโรค covid-19 ใช้สายไฟพันรอบตัวช็อตฆ่าตัวตายคาบ้าน
ข่าววันนี้ น่าน เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา เวลา 14.30 น. ร้อยตำรวจเอก ชวลิต เทรักสี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนันทบุรี แจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตที่ บ้านวังหมอ หมู่ที่ 1 ตำบลบ่อ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
จึงรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตู้ยามบ้านไร่ไพรวัลย์ พันตำรวจตรี สุรชัย บริบูรณ์บางกุล เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดน่าน นายแพทย์ พูนโชค ชัยมิตรวัฒนา นายแพทย์เวรโรงพยาบาลน่าน นายวิรัตน์ ฝั้นเฝือ ผู้ใหญ่บ้านวังหมอ รุดไปในที่เกิดเหตุ
บริเวณบ้านพบมีชาวบ้านมุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก สภาพบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว หลังคามุงสังกะสี ผนังก่อปูน ภายในห้องโถงมีที่นอน พบศพนายชิงชัย หรือไก่ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อาศัยอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบ้าน สภาพศพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อท่อนบนเปลือย สวมกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ โดยมีเสื้อแขนสั้นสีเทา วางเหนือศีรษะ
จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาลน่าน ได้ทำการตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ ในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด นอกจากพบสายไฟฟ้าสีดำจำนวน 2 เส้นพันรอบตัวช่วงหน้าอก และบริเวณมือข้างซ้ายถือสายไฟสีดำรัดแน่น มีร่องรอยถูกไฟไหม้รอบบริเวณมือ และมีปลั๊กไฟฟ้าสีขาววางอยู่ข้างลำตัว มือขวาเกร็งมีพัดลมล้มลงข้างลำตัว ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นางแก้ว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี แม่ของผู้ตาย ซึ่งเป็นคนพบศพผู้ตายเป็นคนแรกได้เล่าว่า ลูกชายมีอาชีพรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้าน และได้อาศัยอยู่บ้านกับแม่และหลานชายอายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของผู้ตาย จากนั้นเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ลูกชายได้ขับรถไปรับภรรยา ที่จุดตรวจด่านห้วยน้ำอุ่น ตำบลอ่ายนาไลย อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
ซึ่งได้มาจากต่างจังหวัด แล้วมาพักอาศัยอยู่ด้วยภายในบ้านหลังดังกล่าว แลอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีแม่ ผู้ตาย ภรรยายผู้ตาย และบุตรชายอายุ 4 ขวบ ทำให้ถูกกักตัวด้วยกันทั้งบ้านทั้งหมด 4 คน โดยมีทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนคอยกำกับควบคุมการกักตัวของทั้ง 4 คน ในระหว่างถูกกักตัวก็จะมีชาวบ้านต่างได้เอาอาหารการกิน เข้าไปให้ภายในบ้านทุกวัน เพราะทั้ง 4 คนไม่สามารถออกนอกบริเวณกักตัวได้
จากนั้น ระหว่างกักตัว ผู้ตายได้บ่นว่าเครียดที่ได้ถูกกักตัว เพราะออกไปไหนไม่ได้ งานก็ไม่ได้ทำเงินก็ไม่มีใช้ จนกระทั่งเช้าวันที่เกิดเหตุ 23 เมษายน ผู้ตายได้มีปากเสียงทะเลาะกับภรรยา และได้ไล่ภรรยาออกจากบ้าน ภรรยาก็ได้พาลูกชายออกจากบ้านเพื่อไปบ้านของพ่อแม่ตนเองที่ ตำบลท่าน้าว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน จากนั้น แม่ของผู้ตายก็ได้ยินเสียงของผู้ตายเอ๊ะอ๊ะโวยวายเสียงดังอยู่ภายในบ้าน
แม่ของผู้ตายได้เข้าไปดู เห็นลูกชายมีอาการเหมือนคนกำลังโมโหสุดขีดไม่ได้สติ แม่ของผู้ตายกลัวว่าผู้ตายจะทำร้ายร่างกาย จึงได้ออกมาจากตัวบ้านแล้วเข้าไปในครัวทำนึ่งไก่ให้ผู้ตาย เพราะได้ยินผู้ตายเคยบ่นว่าอยากกินไก่นึ่ง
ต่อมาแม่ของผู้ตายรู้สึกแปลกใจอยู่ดีๆ ผู้ตายก็ได้เงียบเสียงลงไป จึงได้แอบกลับเข้าไปดูผู้ตายที่ในบ้าน ได้เห็นว่าผู้ตายได้นอนหงายพัดลมได้ลมลง
และเห็นว่ามีสายไฟได้พันกับลำตัวผู้ตาย แต่ปลั๊กไฟไม่ได้เสียบ บริเวณที่ผู้ตายนอนนั้น มีเศษของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตกกระจัดกระจายเต็มที่นอน แม่ของผู้ตายจึงได้เข้าไปหาผู้ตาย เอามือไปจ่อตรงจมูกผู้ตายว่ายังหายใจหรือไม่ และมองตรงท้องผู้ตายก็ไม่มีการขยับ และไม่มีลมหายใจแล้ว จึงได้วิ่งไปร้องเรียกเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยดู
นายวิรัตน์ ฝั้นเฝือ ผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า ผู้ตายไปรับ นาง สุดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี บ้านท่าน้าว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา แล้วมาพักอาศัยกับผู้ตาย ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีแม่ผู้ ผู้ตาย เมียผู้ตาย และบุตรชายของผู้ตาย อายุ 4 ขวบ ทำให้ถูกกักตัวด้วยกันทั้งหมด
โดยที่ชาวบ้านและกลุ่ม อสม.ได้ผลัดเปลี่ยนนำอาหารและเครื่องใช้ เพื่อเป็นกำลังใจครอบครัวผู้ตายดังกล่าว แต่ไม่นึกว่าผู้ตายจะมาคิดสั้นฆ่าตัวตาย โดยใช้สายไฟฟ้าพันรอบตัวแล้วเสียบปลั๊กไฟฟ้าช็อตฆ่าตัวตาย ดังกล่าว
โดย พ.ต.ต..สุรชัย บริบูรณ์บางกุล จนท.วท.จ.น่าน สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า ผู้ตายน่าจะมาเสียบปลั๊กไฟ เพื่อมาเปิดพัดลมแล้วเกิดไฟฟ้าช็อดลัดวงจร หรือผู้ตายอาจจะฆ่าตัวตาย
โดยใช้สายไฟฟ้าพันรัดตัวเอง แล้วไปเสียบปลั๊กไฟฟ้าช็อต ขณะที่ไฟฟ้าช็อดอยู่นั้นผู้ตาย ดิ้นทุรนทุรายดังกล่าวจนทำให้ปลั๊กไฟที่เสียบทิ้งไว้หลุดออกจากกันเต้าปลั๊กไฟ จนกระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ชวลิต เทรักสี พงส.สภ.เมืองน่าน ได้กล่าวว่า ในเบื้องต้นนั้นได้บันทึกหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ และได้สอบถามกับทางญาติของผู้เสียชีวิตถึงสาเหตุของการตาย แต่ทางญาติ ไม่ติดใจการเสียชีวิตดังกล่าว จึงได้มอบศพให้ทางญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
77ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดน่าน รายงาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: