จากมหาสงครามครั้งยิ่งใหญ่ครั้งที่ 2 ในการต่อสู้กับไวรัสโควิด 19 เมืองนัน (ทบุรี) ข้อสังเกตุการเว้นวงเล็บ นัน ในภาษาพื้นเมืองเหนือคือการพูดคุยการทำให้เกิดเสียงดัง หมายถึงในความหมายของผู้เขียนคือ เมืองนี้อะไรไม่รู้จะขอบ่นไว้ก่อน
วันที่ 9 มกราคม 2563 จากกรณีจังหวัดน่าน ประกาศพบผู้ติดเชื้อหญิงสาวชาวลาวในพื้นที่จังหวัดน่าน สร้างความสลดหดหู่ใจให้หลายคน ว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้แบบนั้น เมืองน่านที่เคยสร้างชื่อเสียงปลอดผู้ติดเชื้อโควิด แตกยับเยิน ต่างกล่าวโทษคนนั้นคนนี้ หลายคนถึงขนาดหมดกำลังใจ ไม่ทำอะไรบางกลุ่มก็คอยจะหาคนที่จะต้องรับผิดชอบบอกกลุ่มก็บอกต้องมองโลกในแง่ดี แต่ส่วนตัวผู้เขียนคงไม่เอาด้วย เราคงไม่อยู่ในโลกเพ้อฝันไปนั่งมองอาทิตย์อัสดงกลางสนามรบหรอก
หลายคนตั้งความหวังรอคอยว่าวัคซีนคือความหวังของมวลมนุษย์ชาติ หรือแอพพลิเคชันชั่นนั่นนี่จนชาวบ้านชาวเมืองงงกันละตกลงจะใช้อันไหนเปลี่ยนทุกปี เสนอเลยปีหน้า แอพพลิเคชัน ลุงตู่ชนะ หรือลุงป้อม (ผู้ไม่รู้ ) ชนะ หรือเสี่ยหนู (กินกุ้ง) ชนะ (ผู้ว่า)
นี่เราหลงลืมอะไรหรือเปล่า ว่าธรรมชาติของมนุษย์ ผู้มักง่ายมักจะหาช่องทางหาวิธี หลบหลีกตลอด เหมือนช่วงที่ผ่านมาขนาดทราบว่าตัวเองเสี่ยงแถมคนใกล้ชิดก็แจ้งให้ทราบว่าติดเชื้อก็ยังจะไปต่อเที่ยวต่อ แล้วแอพจะดีปานใดจะทราบไหมว่าคนที่ใช้ติดเชื้อแล้วไปเที่ยวต่อ
วัคซีนที่ดีที่สุด มันก็มีอยู่แล้วที่สังคมขาดคือ วัคซีนที่มีชื่อว่า สำนึกร่วมรับผิดชอบต่อสังคม เราลืมอะไรไปหรือไม่ การชนะหรือการทำสงครามโควิดคือการไม่พบพลเมืองของตนติดเชื้อ สงครามครั้งแรกเราชนะแต่ก็เสียหายยับเยินจนสร้างชื่อเสียงจนนักท่องเที่ยวมากมาย พากันเดินทางมาเที่ยวมากมาย เพราะมั่นใจว่าเมืองน่านปลอดเชื้อ
แต่ในรอบสองหลังประกาศพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่แต่ก็ยังไม่มีเพิ่ม และการติดเชื้อก็เป็นการติดมาจากพื้นที่อื่น หรือหลังๆ มีไทม์ไลน์นักท่องเที่ยวติดเชื้อเดินทางมาในพื้นที่นี่แหละคือที่มาของคำว่าเมืองนัน(ทบุรี)คือโวยวายทั่วบ้านทั่วเมืองบอกให้ปิดเมือง ฯลฯ ก็หากต้องการจะให้ยอดเป็น 0 ไปตลอดเราต้องไม่เปิดให้ใครเข้ามาเลย แต่เราจะไปตามวิธีนี้จริงๆ หรือ
ชนะบนแพ้ คืออะไร เราแพ้จากมีการพบผู้ติดเชื้อจากที่อื่นในพื้นที่ ทำให้น่านพบผู้ติดเชื้อจำนวน 1 ราย แต่นี่คือการชนะสงครามครั้งยิ่งใหญ่ แต่เรายังไม่สามารถประกาศได้ ต้องรอดูหลังจากนี้ว่าเราจะเผลอจนปล่อยให้เกิดมีการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดหรือไม่ แต่หากมัวถอดใจกันอย่างนี้เราแพ้ยับแน่ๆ
เราชนะอะไรยังไง เราชนะจากการที่พลเมืองในจังหวัดน่าน มีระเบียบวินัยและสามัญสำนึกร่วมรับผิดชอบต่อเมืองน่าน ใส่เกราะป้องกันตนเอง ถึงแม้เราจะเปิดประตูปล่อยให้ศัตรูเข้ามาขนอาวุธเข้ามาแต่ไม่สามารถจะทำร้ายคนเมืองน่านได้แม้แต่ปลายขน คือไร้ผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามา ประชาชนพลเมืองน่านทุกคนปลอดภัยมิใช่หรือ
นี่ต่างหากละ คือ ชัยชนะอันแท้จริงของเมืองน่าน ที่ประชาชนพลเมืองสามารถป้องกันตัวเองได้ เราจะอายใคร เราต้องภูมิใจในความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี่สิ เราสามารถยืนบนเวทีระดับประเทศ หรือระดับโลก แบบสง่าด้วยซ้ำไป ว่าเมืองน่านถึงแม้จะมีผู้ติดเชื้อเข้ามา ก็ไม่สามารถทำอะไรพลเมืองชาวจังหวัดน่านด้วยซ้ำ
ไม่ต้องไปอายจังหวัดใดหรอก หากเขาบอกว่าเมืองน่านแตกก็บอกเขาไป ว่าเราไม่ได้แตกนะหลายจังหวัดควรเอาเราเป็นต้นแบบว่า คนเมืองน่านมีของดีอะไร ทำไมขนาดผู้ติดเชื้อเข้ามา ไม่มีคนเมืองน่าน ติดเชื้อสักคน หากคิดได้แล้ว ก็อย่ามัวแต่อาลัยอาวรณ์อาลัยหายอดเป็นศูนย์อยู่ ต่อไปปิดเมืองหรือไม่ปิดเมืองหรือจะมีการระบาดแค่ไหน วัคซีนจะมี หรือจะมาเมื่อไหร่ แต่เมืองน่านฉีดภูมิคุ้มกันให้เมืองให้สังคมไปแล้ว แน่แหละชัยชนะที่แท้จริง
บทความ 77 ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดน่าน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: