จังหวัดน่าน ธารน้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก นำครกหินไปจำนำ นำเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน
วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 จากการที่มีคนนำครกหินมาจำนำเนื่องจากเดือดร้อนไม่มีเงินใช้จ่ายในช่วงโควิดนี้โดยนำมาจำนำในราคา 200 บาท โดยเช้าวันนี้ที่โรงรับจำนำสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองน่าน นายสุรพล เธียรสูต นายกเทศมนตรีเมืองน่านได้ให้นายสุกำพล บุตรดี ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองน่านติดต่อไปยังนางจันทร์ทา คำปา อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 63 หมู่ 1 บ้านธงหลวง ตำบลกองควาย อำเภอเมืองน่านซึ่งเป็นเจ้าของครกหินดังกล่าว
โดยนางจันทร์ทาฯได้เดินทางมายังสถาน ธนานุบาลเทศบาลเมืองน่าน ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่านและยินดีให้ช่วยไถ่ครกหินคืนมาเป็นของตน ขณะเดียวกันยังบอกด้วยน้ำตาว่านอกจากครกแล้วยังนำหม้ออบไฟฟ้าจำนำในราคา 500 บาทด้วย และบอกด้วยว่าตนเองอยู่กับสามีอายุกว่า 60 ปีแล้ว สามีป่วยเจ็บขาทำงานหนักไม่ค่อยได้
ตนเองมีอาชีพไม่แน่นอนทุกวันนี้อาศัยเก็บของออกเร่ขายทั้งของงเก่าและผักต่าง ๆ มีรายได้วันละไม่เกิน 300 บาท บางวันขายไม่ได้เลยก็ต้องอด วันที่นำครกมาจำนำนั้นทั้งบ้านไม่มีเงินเลยจึงตัดสินใจนำมาจำนำโดยขอความเมตตาผู้จัดการโรงรับจำนำรับไว้ และในวันนี้ก็ไม่มีเงินติดตัวเลยโชคดีที่ก่อนจะเดินทางมาได้นำของเก่าที่หาเก็บนำไปขายได้ 70 บาท
นอกจากนั้นตนเองยังเป็นหนี้นอกระบบอีกประมาณ 50,000 บาท เสียดอกเบี้ยทุกวัน วันละ 300-500 บาท ช่วงนี้ไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยจึงถูกแก๊งค์ติดตามทวงหนี้ติดตามข่มขู่ตลอด ซึ่งเงินที่ได้เงินจากการจำนำครกหินและหม้ออบไฟฟ้าเงินส่วนหนึ่งก็นำไปใช้ดอกเบี้ยนอกระบบดังกล่าว นอกจากนั้นตนเองยังเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้านอีกหลายหมื่นบาท เป็นหนี้ธนาคาร ธกส.เอาบ้านค้ำประกันอีกกว่า 300,000 บาท ตอนนี้ยังไม่เงินไปใช้เกรงจะถูกยึดบ้านเพราะขาดส่งหลายงวดแล้ว ซึ่งตนมีลูกสาวอายุ 23 ปี ทำงานรับจ้างที่กรุงเทพมหานครรายได้ไม่มากลบางเดือนก็ส่งมาช่วยบ้างแต่ก็ยังไม่พอกับการใช้จ่าย
ด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า ในยุคโควิดนี้มีคนเดือดร้อนจำนวนมากจึงร่วมกับนายสันติภาพ อินทรพัฒน์ อดีต สว.จังหวัดน่านจัดตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือ ซึ่งในขั้นต้นได้ร่วมกันสมทบเป็นกองทุนจำนวน 5,000 บาท เริ่มจากการไถ่ครกหินและหม้ออบไฟฟ้าให้นางจันทร์ทาฯจำนวน 700 บาท พร้อมดอกเบี้ยนอกจากนั้นนายสันติภาพฯยังมอบเงินให้นางจันทร์ทาฯอีกจำนวน 1,000 บาท ไว้ใช้จ่ายบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน
สำหรับจังหวัดน่านยังคงมีผู้นำของไปจำนำที่โรรับจำนำอย่างต่อเนื่อง นายสุกำพล บุตรดี ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองน่านกล่าวว่าคนมาใช้บริการ มีอาชีพพ่อค้าแม่ค้าในเขตเทศบาลมากกว่าอาชีพอื่นที่มาจำนำของแต่คงมีหลากหลายอาชีพซึ่งมาจำนำของ และมีคนนำทองคำมาจำนำด้วยเนื่องจากว่าราคาทองคำขึ้น มีผู้มาใช้บริการวันต่อวัน 5-10 ราย และมีเครื่องมือช่าง เครื่องมือทำการเกษตร เครื่องมือทำครัว เนื่องจากที่โรงสถานธนานุบาลดอกเบี้ยถูกจึงทำให้มีผู้คนเข้าใช้บริการมาก อัตราดอกเบี้ยจะถูกกว่าร้านทองปกติ และโรงรับจำนำมีเงินสำรองอยู่ที่ 39 ล้านบาท ดอกเบี้ยไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 50 สตางค์ เกินร้อยละ 1 บาท และ ช่วง 1 มิถุนายน – 30 กรกกฎาคม นี้ เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 25 สตางค์ต่อเดือน นายสุกำพล อุ่นดี ตำแหน่งผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองน่าน คาดว่า จะมีผู้มาใช้บริการตามเศรษฐกิจแบบนี้มากกว่าเดิม
ช่วงนี้จะมีผู้มาไถ่ทองคำเพื่อนำไปขายต่อมากขึ้นกว่าเดิมเพราะช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ทองคำราคาขึ้น และสิ่งของที่นำมาจำนำมีจำพวกเครื่องมือช่าง เช่นสว่าน เครื่องตัดหญ้า ส่วนของใช้ภายในบ้านมีตู้เย็น ทีวี เครื่องซักผ้า เครื่องดนตรี ต่างๆ เป็นต้น ลูกค้านำของมาจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในช่วงก่อนเปิดเทอม
ติดตามข่าวอื่นในจังหวัดน่าน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: