จับแล้วต่างด้าวเร่ขายผ้าใบ เปิดใจก่อนวิ่งหนีไม่ใช่แก๊งลักเด็ก อาศัยช่วงเผลอโกยแนบ เร่งติดตาม
เจ้าหน้าที่ทะลายแก๊งขับเก๋งเร่ขายผ้าใบพบเป็นต่างด้าวใช้พาสปอร์ตเข้ามา 30 วัน อาศัยอยู่ 3 ปี เร่ขายขนมีข่าวโด่งดังมาแล้วหลายจังหวัด เปิดใจก่อนวิ่งหนี ไม่ใช่แก๊งลักเด็ก เพียงแต่ให้ขนมและพูดคุยกับเด็ก แต่ผู้ปกครองเด็กเข้าใจว่าจะขโมยเด็ก หลังเปิดใจอาศัยเจ้าหน้าที่เผลอถอดรองเท้าใส่เกียร์หมาวิ่งหายเข้าในป่าเจ้าหน้าที่วิ่งตามไม่ทัน ผู้หลบหนีกระโดดข้ามรั้วลวดหนามสูงกว่าสองเมตรข้ามหนีเข้าป่าหน้าตาเฉย ระดมกำลังติดตามค้นหา ล่าสุดชาวบ้านให้เบาะแสเจอโบกขึ้นรถแต่ไม่รับห่างจากจุดหลบหนีกว่า 5 กิโลหลังหนีไปเพียง 50 นาที เร่งติดตามอย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ รีสอร์ตผู้พัน ท้ายหมู่บ้านบ่อสวก ตำบลบ่อสวก อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบกลุ่มบุคคลต่างพื้นที่ลักษณะคล้ายบุคคลตามข่าวที่เผยแพร่ตามสื่อต่างๆว่า มีพฤติกรรมมาเร่ขายผ้าใบ เข้าใจว่าเป็นแก๊งลักเด็ก โดยชาวบ้านแจ้งว่าใช้พาหนะตรงตามที่เป็นข่าวปรากฎรวมทั้งยังเร่ขายผ้าใบ และพูดสำเนียงไม่ชัดลักษณะไม่ใช่คนไทย
จากการลงพื้นที่เข้าตรวจสอบที่รีสอร์ตดังกล่าวพบ ชายต้องสงสัย 2 รายพูดไทยไม่ชัด เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามเอกสารแสดงตัว ทั้งสองรายสารภาพว่าไม่ใช่คนไทยแต่เป็นชาวเวียดนาม โดยเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดน่านจำนวน 6 คน เป็นผู้หญิงคนไทย 1 คน และผู้ชายสัญชาติเวียดนาม 5 คน เมื่อถามหาพาสปอร์ต ทั้งสองรายแจ้งว่าไม่มีได้ทำหายไปนานแล้ว และพาสปอร์ตได้หมดอายุนานแล้ว เจ้าหน้าที่สอบถามพฤติกรรมทราบว่าได้เดินทางเข้ามาในจังหวัดน่านเพื่อเร่ขายผ้าใบ แต่เมื่อหลายวันก่อนได้มีข่าวออกมาว่าได้มีแก๊งเร่ขายผ้าใบ แอบแฝงมาเพื่อขโมยเด็กจึงไม่กล้าออกไปไหน
แต่ระหว่างสอบปากคำอยู่หนึ่งในแก๊งดังกล่าวอาศัยช่วงจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอถอดท้องเท้าวิ่งหนีเข้าป่าไปเจ้าหน้าที่ติดตามไปไม่ทัน
โดยผู้หญิงคนไทยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนพาชายต่างด้าวมาเพียงแต่มาเที่ยวกับแฟนที่เป็นชาวเวียดนามที่อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย แต่ตอนนี้ได้ออกไปซื้อกับข้าวจากนั้นได้มาแสดงตัว แจ้งว่าพาสปอร์ตหมดอายุได้ 4 วันกำลังดำเนินการต่ออายุ แต่ชายอีกสองคนอ้าว่าเอกสารหายแต่เมื่อค้นรถพบพาสปอร์ตมีตรวจดูพบเดินทางเข้ามาราชอาณาจักรไทยผ่านทางจังหวัดหนองคายแต่อนุญาตเพียง 30 วัน แต่อยู่อาศัยในไทยมาแล้ว 3 ปีกว่า
ส่วนที่อำเภอเชียงกลาง เจ้าหน้าที่จับกุมตัวขบวนการดังกล่าวได้อีก 1 ราย หลบหนี 1 ราย
เบี้ยงต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาเป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานหากปรากฎชัดจะดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป
