ผัวเมียทะเลาะกัน ผัวต่อยหน้าแตก เมียคว้ามีดแทงสวนเข้าลิ้นปี่ดับ
วันที่ 12 มกราคม 2565 เวลา 06.09 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปัว จังหวัดน่าน ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลปัวว่ามีผัวได้รับบาดเจ็บ เป็นคู่ผัวเมียทะเลาะวิวาทและฝ่ายผัวต่อยปากและต่อยหน้าผากเมีย ส่วนฝ่ายเมียใช้มีดแทงผัว เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลปัว แล้วเสียชีวิต จึงเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 68 บ้านส้าน หมู่ที่ 3 ตำบลสถาน อำเภอปัว จังหวัดน่าน ทราบในเวลาต่อมาว่าผู้ก่อเหตุไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจึงสั่งการให้สืบสวนจับกุม จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่ โรงพยาบาสสมเด็จพระยุพราชปัว เมื่อไปถึง พบ น.ส.นกาพรหรือพร (นามสมมุติ) อยู่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ฯ ซึ่งที่บริเวณใบหน้ามีรอยบาดแผล จึงได้เข้าสอบถาม จากการสอบถาม น.ส.นภาพรหรือพร (นามสมมุติ) ได้ยอบรับว่าตนได้ทำร้ายร่างกายสามีจริง
โดยใช้อาวุธมีดปลายแหลม แทงเข้าบริเวณหน้าอกของสามี หลังจากก่อเหตุได้ทิ้งอาวุธมีดไว้ที่โรงรถที่บ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยมี น.ส.นภาพรหรือพร ฯ (นามสมมุติ) เดินทางไปด้วย เพื่อนำไปชี้จุคที่นำมีดไปทิ้ง เมื่อไปถึงพบอาวุธมีดปลายแหลมตกอยู่บริเวณโรงรถภายในบ้าน จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากการสอบถาม น.ส.นภาพรหรือพร (นามสมมุติ) ให้การว่าได้ใช้อาวุรมีดปลายแหลม ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้แทงที่บริเวณหน้าอกของสามีจริง จึงจับกุมและไห้นำตัวพร้อมของกลางมาที่สถานีตำรวจภูธรปัว เพื่อดำเนินการส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- รมว.วธ. ยินดีกับ “หลานม่า”เข้ารอบชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 เป็น 1 ใน 15 เรื่องสุดท้าย
- หนาวนี้ไปแอ่วเมืองเจียงฮายกั๋นเต๊อะ! ส่อง 7 อีเวนต์ไฮไลต์ใน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024”
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
ด้าน น.ส.นภาพร หรือพร (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุได้เล่าให้ฟังว่า ตนอายุ 26 ปี ได้แต่งงานอยู่กินกับ นายอภิวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี จนมีลูกชายด้วยกันวัย 4 ขวบ ผู้ตายชอบเล่นการพนันออนไลน์ โดยเฉพาะบอล หากเล่นเสียมักจะอารมณ์เสียและมักมาลงที่ตนกับลูกตบตีเป็นประจำ
เมื่อคืนก็แทงพนันบอลออนไลน์ แล้วเสียพนัน เช้ามาระหว่างที่ตนกำลังจะทำกับข้าวเช้าอยู่ สามีก็ได้เข้ามาหาเรื่องทะเลาะ และทำร้ายร่างกายตนด้วยหมัด จากตนมีแผลแตกบริเวณที่ปาก และหน้าผาก แล้วสามียังคว้ามีดพร้า แล้วเดินเข้าหาตน ตนจึงเดินอ้อมรถไปหยิบมีด ขากนั้นมีปากเสียงท้าทายกัน สามีเดินเข้าหาตนจึงเหวี่ยงมีไปหนึ่งครั้งไม่คิดว่าจะเข้าบริเวณลิ้นปี่ จนสามีล้มลงตนตกใจไม่คิดว่าจะโดน จากนั้นจึงรีบตะโกนให้คนช่วยและพากันมาโรงพยาบาล จนเวลาต่อมาจึงเสียชีวิต
ด้าน นายสะอาด พี่ชายของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า ตอนเช้าขณะตนนอนอยู่บนที่นอน หลานสาวได้โทรมาบอกตนว่า น้องชายกับน้องสะใภ้ทะเลาะกัน น้องสะใภ้ได้ใช้มีดแทง และไปโรงพยาบาล ตนจึงรีบล้างหน้าแปลงฟันและรีบตามไป เมื่อตามไปถึงพบว่าน้องชายตนอยู่ในห้อง ICU แต่พบน้องสะใภ้ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด มีแผลบริเวณหน้าผากและโหนกแก้มเลือดอายเต็มหน้าและเสื้อ จากการสอบถามได้ความว่าทะเลาะกันถูกสามีต่อยจนแตก และจะใช้สากทุบจึงเหวี่ยงมีดไปโดนหน้าอก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนกับทางญาติจึงรับศพน้องชายกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน ส่วนทางด้านคดีความนั้น ตนกับทางญาติๆ ไม่ได้ติดใจอะไร ยังนำที่นอนรวมทั้งข้าวปลาอาหารไปเยี่ยมน้องสะใภ้ที่โรงพัก และเข้าใจน้องสะใภ้ดีหากเป็นไปได้ไม่อยากดำเนินคดี แต่ยังไงฆ่าคนตายก็ต้องมีความผิด และเข้าใจว่าน้องสะใภ้คงเหลืออดแล้วจริงๆ
ด้านที่บ้านที่เกิดเหตุ ทางญาติได้จัดเตรียมสถานที่ที่จะสวดอภิธรรมศพ ตามความเชื่อ พร้อมทั้งช่วยกันดูแลลูกชายของผู้เสียชีวิตวัย 4 ขวบ ระหว่างรอผู้ก่อเหตุประกันตัว โดยแหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่ามีคนมาประกันตัว 2 คน เนื่องจากทราบถึงพฤติกรรมของผู้ตายดี รวมทั้งเห็นใจที่ต้องดูแลลูกน้อย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งสามีภรรยาได้ทะเลาะวิวาทกัน ฝ่ายสามีได้ทำร้ายภรรยาจนเป็นแผลแตก ฝ่ายภรรยาจึงใช้มีดแทงสามีและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงไปสืบสวนสอบสวน ฝ่ายภรรยาได้รับสารภาพว่าก่อเหตุจึง เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการจับกุม และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: