น่าน สาวรำวงเมายืมรถกระบะเพื่อนขับซิ่งชนคนเก็บขยะดับคาที่
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พศ.2566 เวลา 20.00 น. ร.ต.อ. สุวัฒน์ชัย เปี่ยมทวีศักดิ์ พงส.สภ.ภูเพียง จ.น่าน ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่านว่ามีเหตุ รถยนต์ชนท้ายรถบรรทุกขยะ เหตุเกิดถนนสายน่าน – แม่จริมบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านทุ่งน้อย ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน มีผู้บาดเจ็บ สาหัส 2 รายเป็น ชาย 1 ราย หญิง 1 ราย
จึงได้ออกตรวจที่เกิดเหตุพบกระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีบรอนซ์ ทะเบียน บบ 150 น่าน ซึ่งมี น.ส.บัณฑิตา แสงคำ อายุ 30 ปี บ้านเลชที่ 81 ม.14 ต.ฝ่ายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส หมดสติเรียกไม่รู้สึกตัวติดภายในตัวรถ ยังมีสัญญาณชีพ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครน่านรวมใจ ได้ทำการช่วยเหลืออกจากตัวรถและทำการปฐมพยาบาล รถกู้ภัยสว่างนครน่านรวมใจได้นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ. น่าน ที่ชนท้ายรถบรรทุกขยะสีเหลือง ทะเบียน 80 – 6340 น่าน ของ อบต.ฝ่ายแก้ว ซึ่งมีนายสาคร กันทะ อายุ 41 ปี (คนเก็บขยะ) อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.15 ต.ฝ่ายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน มีแผลแตกยุบบริเวณหน้าผาก มีขาหักผิดรูป หมดสติไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครน่านรวมใจ ได้ทำการ cpr ณ จุดเกิดเหตุ รถEMS รพ.น่าน นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ. น่าน
จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่า ในขณะที่รถบรรทุกขยะออกปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นโดยมีนายสาคร กันทะ อายุ 41 ปี (คนเก็บขยะ) และเพื่อนกำลังเก็บขยะอยู่ที่ท้ายรถขยะอยู่นั้นได้มี น.ส.บัณฑิตา ขับขี่รถยนต์ คันดังกล่าวมาด้วยความเร็วสูงได้พุ่งชนคนเก็บขยะอย่างแรงจนคนเก็บขยะถูกอัดก๊อปปี้ติดอยู่ท้ายรถตกไปในร่องน้ำริมถนนข้างทาง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุบันทึกได้ทำแผนที่เกิดเหตุ และร่วมกับ ทีมแพทย์โรงพยาบาลน่านชันสูตรพลิกศพเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ซึ่งต่อมาทางพล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน ไปออกตรวจกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ภูเพียง พนักงานสอบสวนรับแจ้งว่ามีรถกระบะขับชนรถเก็บขยะ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของ อบต.ฝายแก้ว กำลังเก็บขยะอยู่ท้ายรถ แล้วมีรถกระบะขับมาด้วยความเร็วสูงส่งผลให้คนเก็บขยะอักก็อปปี้กับท้ายรถได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยไม่มีรอยเบรคและรถขยะก็เปิดไฟสัญญานเตือนสว่าง
ส่วนคนขับเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัสยังไม่สามารถให้การได้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้เก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
