พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาเกษตรที่สูง อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ บ้านสบขุ่น ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
ที่สถานีเกษตรที่สูงตามพระดำริบ้านสบขุ่น ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และคณะ เดินทางติดตามความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาเกษตรที่สูง อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ โดยมี นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยพลตรี ดุสิต ปุระเสาร์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 38 และข้าราชการทหารตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สนองงาน ให้การต้อนรับและบรรยายสรุป โครงการเกษตรที่สูงบ้านสบขุ่น เป็นอีกโครงการหนึ่ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ตามพระประสงค์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ที่ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ กองทัพภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการในการพัฒนาพื้นที่เพื่อช่วยเหลือราษฎรเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยน้อมนำเอาพระราชเสาวนีย์ ขององค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ มาเป็นแนวทาง ในการปฏิบัติเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ให้ดีขึ้น ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ตามกรอบแนวความคิดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ การพัฒนาระบบนิเวศป่าไม้ พัฒนาแหล่งน้ำ ปรับปรุงบำรุงดิน ส่งเสริมอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎร ซึ่งในปัจจุบันสามารถนำผลิตผลทางการเกษตรนำไปจำหน่ายผลที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยไม่มีหนี้สิน พร้อมกันนี้ ได้พบปะกับราษฎรในพื้นที่ เพื่อรับฟังสภาพปัญหาและอุปสรรค์ต่างๆ ที่ผ่านมาหลังจากโครงการฯ ได้เข้ามาพัฒนาพื้นที่ ส่งเสริมอาชีพต่างๆ เช่น สนับสนุน กองทุนเมล็ดพันธุ์ กองทุนหมู การส่งเสริมการปลูกพืชผัก ฤดูหนาว พืชผักชนิดต่างๆ หลังจากการเก็บเกี่ยวนาข้าว และทำการปลูกพืชต่างๆ จนได้ประสบผลสำเร็จ เป็นต้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการทำการเกษตรได้ผลผลิตดี ทำให้ราษฎรในพื้นที่ต่างมีรายได้ และบางครอบครัวเมื่อก่อนได้อพยพถิ่นฐานไปประกอบอาชีพ ยังที่ต่างๆได้หวนคืนกลับมายังถิ่นฐานของตนเอง ได้กลับมาประกอบอาชีพ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนาอาชีพต่างๆ นำไปจำหน่าย เช่นการปลูกพืชเมืองหนาว การแพ็กบรรจุหีบห่อ ผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันราษฎรในพื้นที่ ไม่มีภาระหนี้สิน และมีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีอาชีพที่มั่นคง และมีงานทำตลอดฤดูกาล ในปัจจุบัน ยังเป็นโครงการต้นแบบให้พื้นที่หมู่บ้านต่างๆ นำไปปฏิบัติและเป็นแนวทาง ในการส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
