ผู้สื่อข่าวรับเรื่องร้องเรียนว่า มีเหตุนักเรียนมั่วสุมหอพักของคนมีสีแห่งหนึ่ง ร้อง อปท. แล้ว ถึง 2 ครั้งไม่คืบ สามารถถ่ายภาพเด็กอายุประมาณ 15-17 ปี จำนวน 7 คน อยู่ในชุดนักเรียนหญิงชั้นมัธยมตอนปลาย ของโรงเรียนชื่อดังในอำเภอของจังหวัดแห่งหนึ่งมั่วสุมกัน ดื่มสุรา ส่งเสียงดัง
วันที่ 28 สิงหาคม 2562 เมื่อเวลา 10.11 น. ผู้สื่อข่าวรับเรื่องร้องเรียนว่า มีเหตุนักเรียนมีทั้งชายหญิงมั่วสุมภายในหอพัก โดยเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาน 21.00 น. เศษ สามารถถ่ายภาพพฤติกรรมของเด็กนักเรียนชายอายุประมาณ 15-17 ปี จำนวน 7 คน บางคนยังอยู่ในชุดนักเรียนหญิง ชั้นมัธยมตอนปลาย ของโรงเรียนดังในอำเภอของจังหวัดแห่งหนึ่ง ขณะกำลังมั่วสุมกัน ดื่มสุรา ส่งเสียงดัง อยู่ภายในหอพักหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเขตชุมชน พฤติกรรมไม่เกรงกลัวและละอายว่าจะมีผู้พบเห็น
การจับกลุ่มมั่วสุมของนักเรียนกลุ่มนี้ สร้างความไม่สบายใจกับชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นเยาวชนของชาติ ซึ่งทุกคนกำลังอยู่ในวัยเรียนทั้งหมด จึงอยากให้สื่อตรวจสอบและประสาน ให้หน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเข้ามาเร่งแก้ไขช่วยกันป้องกัน ปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เยาวชนที่หลงผิดเหล่านี้ สร้างปัญหาบานปลายในอนาคต เพราะได้ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่ไม่มีความคืบหน้าในแก้ไขปัญหาปล่อยปะละเลย ถึงครั้งที่ 3 แล้ว
ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อสอบถามไปยัง ศูนย์เสมารักษ์สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดแห่งนี้ พร้อมให้ข้อมูลและภาพเหตุการณ์ที่ผู้ร้องเรียนบันทึกภาพพฤติการณ์ของนักเรียนกลุ่มนี้ เบื้องต้นทางศูนย์ฯ ทราบแล้วว่าหอพักที่เกิดเหตุตั้งอยู่ที่ใด และรับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการ โดยวันนี้จะนำเข้าหารือในที่ประชุมความมั่นคงประจำเดือนที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรนักเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พื้นที่เกิดเหตุ ออกตรวจสอบหอพัก และรายงานให้ผู้บังคบบัญชาทราบตามระเบียบราชการในลำดับต่อไป
โดยผู้สื่อข่าวแจ้งให้ทางศูนย์ฯ ทราบว่า ผู้ร้องเรียนเคยนำเรื่องร้องเรียนต่อ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่เกิดเตุแล้ว ถึงเหตุการณ์มั่วสุมทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาแต่ไม่มีความคืบหน้า จากข้อมูลเบื้องลึกทราบว่า เจ้าของหอพักเป็นข้าราชการเกษียณ โดยมอบให้ลูกเป็นบุคคลมีสีเป็นผู้ดูแลหอพัก จึงเกิดความเคลียบแคลงสงสัยของผู้ร้องเรียนถึงความล้าช้าในการป้องปราม จนเกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างความระอาต่อชาวบ้านที่พบเห็น โดย พรบ.หอพัก (ฉบับเดิม) ตามระเบียบเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ แต่ประกาศแก้ไขปรับปรุงมอบโอนภารกิจให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ ทางสำนักงานศึกษาธิการของจังหวัด มีอำนาจหน้าที่เพียงเป็นหน่วยเฝ้าระวัง และตรวจสอบเหตุการณ์
สำหรับ ในพื้นที่อำเภอดังกล่าว พบว่า ปัจจุบันการยาเสพติดชนิด ได้แพร่ระบาดอย่างหนัก ทั้งผู้เสพทั่วไปในชุมชน หมู่บ้าน และลุกลามถึงเยาวชนนักเรียนนักศึกษา ซึ่งผู้จำหน่ายอาศัยโอกาส ช่วงวัยอยากรู้อยากลองของเยาวชนนักเรียนเหล่านี้ จึงมีความเป็นห่วง
