กรณีหญิงสาวขึ้นรถทัวร์คันปริศนา คดีพลิกโกหกว่าถูกกักขังนั้น ยังไม่มีใครรู้สาเหตุ ต้องรอเจ้าตัวชี้แจง
อุดรธานี – ความคืบหน้า กรณี หญิงสาวขึ้นรถทัวร์คันปริศนา ที่ขับพาเข้าป่า ก่อนจะติดต่อไม่ได้ ซึ่งตำรวจเร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
ที่ สถานีขนส่งอุดรธานี แห่งที่ 1 ร.ต.อ.ทรงเกียรติ ขันเขต รอง สว.สืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจ พร้อมครอบครัว น.ส.แววตา เพื่อติดตามหาเบาะแส หลังจากขึ้นรถ ทัวร์ไม่ทราบสาย เพื่อเดินทางไปหาแฟน ที่ จ.กาฬสินธุ์ แต่หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้
ตำรวจได้สอบถาม นายอาทิตย์ โชติวิเศษ อายุ 52 ปี พนักงานขายตั๋วรถโดยสารประจำทาง สายคำตากล้า-อุดรธานี พร้อมนำรูป น.ส.แววตา มาให้ดู และตรวจเช็คทราบว่ามีรถโดยสารเบอร์ 10 วิ่งให้บริการ ช่วงที่ น.ส.แววตา ขึ้นรถช่วงเช้า ,รถจอดแวะที่หน้า รร.อนุบาลหนองหาน จากนั้นได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานี พบ น.ส.แววตา ลงจากรถในเวลา 08.38 น. เดินมาคนเดียว ลักษณะก้มหน้าดูโทรศัพท์ เดินออกไปทางหน้า บขส.ปกติ แต่กล้องด้านหน้าไม่มี จึงไม่เห็นว่าไปขึ้นรถคันไหน
นายพัฒนะ ช่วยค้ำชู เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน สถานีขนส่งอุดรธานี แห่งที่ 1 เปิดเผยว่า จากภาพวงจรปิด เห็น น.ส.แววตา เดินทางไปด้านหน้าสถานี ตามที่แม่ของ น.ส.แววตา บอกว่า ลูกขึ้นรถทัวร์สีม่วง คาดว่าจะเป็นรถรับเหมาท่องเที่ยว หรือรถส่วนตัวใช้วิ่งรับเหมา โดยปกติแล้วรถประเภทนี้ จะไม่วิ่งเข้าหรือผ่าน บขส.แห่งที่ 1 เลย ซึ่งอาจจะมีกรณีช่วงเทศกาลเท่านั้น ที่เข้ามาขอวิ่งเสริม
ต่อมา ผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่ บ.ไผ่ล้อม ม.4 ต.อ้อมกอ อ.บ้านดุง พบ นายประมวล และนางอุบล พ่อแม่ของ น.ส.แววตา ซึ่งเปิดเผยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตอนนี้โล่งอกแล้ว หลังจากตำรวจพาไปสอบถามบริษัททัวร์ จนทราบว่า ลูกนั่งรถเข้ากรุงเทพ แต่ไม่ทราบว่าไปทำอะไร เพราะตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ แต่ก็อุ่นใจเปราะหนึ่ง ที่ลูกไม่ได้เกิดเหตุร้ายตามที่โทรมาบอกก่อนหน้านี้
นางอุบล เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยโกหกหลายครั้ง บอกว่าจะไปหาเพื่อนก็ไปโผล่อีกจังหวัดหนึ่ง ตอนนี้รู้แล้วว่าลูกโกหกว่ารถไปจอดในป่า ถูกยึดโทรศัพท์ ถ้าลูกเห็นข่าว อยากบอกว่า พ่อแม่ให้ภัย ให้ติดต่อกลับมา ทุกคนเป็นห่วงมาก
ขณะที่นายสันติ แฟนหนุ่ม เปิดเผยว่า กำลังเดินทางกลับไปทำงานที่ จ.กาฬสินธุ์ ทราบจากตำรวจแล้วว่า ภรรยาขึ้นรถไปกรุงเทพ ไม่ได้ถูกกักขังตามที่อ้าง ยังไม่ได้ตัดสัมพันธ์ รอให้กลับมาก่อนค่อยพูดคุยถามเหตุผล และจะได้ตัดสินใจว่าจะแยกทางกันหรืออยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
ด้าน พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ตำรวจได้สืบสวน ดูภาพจากวงจรปิด และสอบถามบริษัททัวร์ต่างๆ กระทั่งพบว่า น.ส.แววตา นำบัตรประชาชนมาซื้อตั๋วไปกรุงเทพ ด้วยความสมัครใจ ไม่มีใครบังคับ ส่วนที่ไปกรุงเทพแล้วโกหกว่าถูกกักขังนั้น ยังไม่มีใครรู้สาเหตุ ต้องรอให้ น.ส.แววตา ติดต่อกลับมาจึงจะสอบถามสาเหตุการโกหกในครั้งนี้
ที่มา – โฮมเคเบิ้ลทีวีอุดรธานี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: