อุดรธานี – ปัจจุบันคนไทยหันมาบริโภคกาแฟเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จะเห็นร้านค้าเปิดให้บริการตามสถานที่ต่างมากมายแต่กาแฟที่มานำเสนอในวันนี้ก็คือกาแฟขี้ชะมด
มูลของชะมดที่มีเมล็ดกาแฟอยู่ด้วยนี่ล่ะคับ จะถูกนำไปตากแห้ง ก่อนจะนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อนำมาผลิตขายเป็นกาแฟขี้ชะมด กาแฟขี้ชะมดเป็นการนำเอาเมล็ดกาแฟไปใช้เป็นอาหารสัตว์ที่จัดอยู่ในตระกูลชะมด จะได้ส่วนของกาแฟที่ปะปนออกมาจากการขับถ่ายของมัน เชื่อว่าจะเป็นการช่วยคัดเลือกกาแฟที่มีคุณภาพออกมาได้มากกว่าการคัดเลือกแบบทั่วไป แถมยังมีกระบวน การหมักบ่มภายในกระเพาะอาหารของชะมด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมี เอ็นไซม์ย่อยอาหารของชะมดเปลี่ยนโครงสร้างโปรตีนในเมล็ดกาแฟ ซึ่งกำจัดความเป็นกรดบางส่วนออก ทำให้ได้กาแฟรสชาตินุ่มนวลขึ้น เมื่อการย่อยดำเนินไปเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพจะถูกผสมผสานเข้ากับเนื้อที่พวกมันกิน ให้กาแฟมีคุณภาพสูงขึ้น อีกทั้งยังทำให้รสชาติของกาแฟน่าลิ้มลองมากกว่าเดิม
คุณอฤเดช แพงอะมะ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟบ้านเชียง ผู้ผลิตกาแฟขี้ชะมด กว่า 3 ปี เล่าว่า เลี้ยงชะมดมากกว่า 80 ตัว และส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกกาแฟในระบบวิสาหกิจชุมชนส่วนใหญ่ก็จะปลูกสายพันธ์โรบัสต้า เพื่อกระจายรายได้ให้กับชุมชนใน อ.หนองหาน อ.ทุ่งฝน กว่า 2 หมื่นต้น ภายใต้แบรนด์บ้านเชียงมีทั้งจำหน่ายเป็นกาแฟสดและเป็นอาหารของชะมด ยอมรับว่ากลุ่มคนที่นิยมกาแฟขี้ชะมดมีมากพอสมควรแต่ที่เลิกดื่มไปเพราะถูกมองว่าเป็นการทรมานสัตว์
ดังนั้นเค้าจึงได้หาวิธีที่โดยการไปปรึกษากับทีมวิจัย มหาวิทยาลัยมหาสารคามภาคอุตสาหกรรมเคมีในการรักษาคุณภาพของกาแฟขี้ชะมดแต่จะไม่ต้องทรมานสัตว์วิธีการสร้างเอนไซม์หรือจุลินทรีย์ที่จะทำให้คล้ายคลึงหรือเป็นของจริงเลย เพราะว่าเราคัดลอกจุลินทรีย์จากเปลือกชะมดหรือมูลชะมดไปทำในห้องแลบซึ่งจะมีรสชาติแบบเดียวกันและสามารถทำได้เร็วและไวกว่าการเลี้ยงชะมด โดยปกติเราจะหมักหรือเลี้ยงจุลินทรีย์ประมาณ 3-4 วัน ถ้าเราหมักเป็นจุลินทรีย์ทดแทนการให้ชะมดกิน เท่ากับว่าเราหมักถึง 3 ปี ความรวดเร็วของเอนไซน์ใส่เข้าไปในกระปุกเดิน 3-4 วัน และเดินทั่วทุกเม็ด บางทีจุลินทรีย์ต้องแข็งแรงถึงจะเข้าไปในเนื้อสารได้ ซึ่งขั้นตอนการทดลอง มีความคืบหน้า 90 % เหลือแต่ขั้นตอนบางส่วน หากสำเร็จชะมดบางส่วน คุณอฤเดช ก็ไปกลับคืนสู่ป่า ที่สำคัญกาแฟชะมดก็จะราคาถูกลงจากแต่ก่อนราคาก็จะตกอยู่ที่แก้วละ 300 -500 บาท คอกาแฟก็อาจจะหันมาดื่มกาแฟชะมดเพิ่มมากขึ้น
ที่มา – โฮมเคเบิลอุดร , ข่าวสารเมืองอุดร
