คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนว่า การ “ปะ-ฉะ-ดะ” กันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) กำลังลุกลามกลายเป็น “แดนสังหาร” (killing field)
ประเดิมเริ่มเรื่องมาจากคำครหาเรื่อง “การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ” ของคณะรัฐมนตรี และการจัดทำพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มิชอบ เนื่องจากไม่มีการระบุแหล่งที่มาของรายได้ มีแต่การระบุรายจ่ายของกระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ
ประเดิมเรื่องนี้ ก็ถึงขั้นตัดพี่ตัดน้องกันกลางสภา ทั้ง ๆ ที่จบจากโรงเรียนนายร้อยมาด้วยกัน และยังมีการกล่าวย้อนหลังไปถึงการท้ายิงกันด้วย
เรื่องราวของทั้งสองคนจึงกลายเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง ที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีขาเชียร์ จึงยิ่งลุกลามและบานปลายออกไปเรื่อย ๆ จนกำลังกลายเป็น “แดนสังหาร”ใครแน่คนนั้นรอด ใครพลาดคนนั้นตาย และอาจจะตายในคุกด้วย
หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวสุดสะเทือนใจของ ทุ่งสังหาร แดนสังหาร (killing field) ที่กัมพูชา มากันบ้างแล้ว บางคนอาจจะรู้เจาะลึกถึงเรื่องราว และความสยดสยองของสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่น หนึ่งในอันดับความโหดร้าย ของกลุ่มคนที่ทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างทารุณที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เกิดขึ้นยาวนานถึง 4 ปี เป็น 4 ปี แห่งความทรมานของชาวกัมพูชา จนทั่วโลกต้องขวัญผวา และเล่ากันมาจนถึงทุกวันนี้ “ทุ่งสังหาร นรกในกัมพูชา”
เหตุการณ์ทุ่งสังหาร (Killing field) เป็นการต่อสู้แย้งชิงอำนาจบริหารอันเกิดจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ จนนำมาสู่การสังหารชนชาติเดียวกันนับล้านคน
กล่าวสำหรับคู่ขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ถือเป็นคู่ใหญ่ ที่กำลังดำรงอยู่ และขยายความออกไป ยิ่งเมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เข้าไปนั่งเป็นประธาน กมธ.ป.ป.ช. และเดินหน้าเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มาชี้แจง ทั้งเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ และการจัดทำงบประมาณ ปี 2563 โดยมิชอบ
ตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ ใน กมธ.ป.ป.ช.อย่าง นายพยม พรหมทอง ส.ส.สงขลา ถึงกับลาออกจาก กมธ.ป.ป.ช.เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ต่อมา พรรคพลังประชารัฐ ส่ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร ไปนั่งเป็น กมธ.ป.ป.ช.แทนคนที่ลาออก สั่งสัญญาณชัดว่า ซีก พล.อ.ประยุทธ์ เดินหน้าชนแล้ว
ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ก็ไม่ลดละเกรงกลัว ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ออกคำสั่งเรียกนายกฯมาชี้แจง หลังจากก่อนหน้านั้น ส่งตัวแทนมาขี้แจงครั้งหนึ่งแล้ว และอ้างว่าเป็นมติของ กมธ.ป.ป.ช.
แต่นายสิระ ยืนยันว่า กมธ.ป.ป.ช.ไม่ได้มีมติออกคำสั่งเชิญ พล.อ.ประยุทธ์มาชี้แจง พร้อมท้าว่าถ้าแน่จริง เอาเทปมาเปิดดูกัน พร้อมส่งสัญญาณไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ว่า ไม่ต้องไปสนใจคำสั่งให้ไปชี้แจง
ดูเหมือนว่า เรื่องขัดแย้งจะไม่จบลงง่าย ๆ แน่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ก็ตั้งป้อมสู้ ด้วยการตั้งที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ขึ้นมาอีกครึ่งโหล และในนั้นก็มี นายวัฒนา เมืองสุข จากพรรคเพื่อไทย รวมอยู่ด้วย
แต่ไม่รู้มีอะไรผิดพลาดตรงไหน หนังสือแต่งตั้งที่ปรึกษา ประธาน กมธ. ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ อ้างมติ กมธ.ป.ป.ช.วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 และให้มีผลทันที แต่หนังสือแต่งตั้ง กลับถูกนายวัฒนา นำมาเปิดเผย ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งยังไม่มีการประชุม กมธ.ป.ป.ช.
หนังสือแต่งตั้งมีตราครุฑเรียบร้อย ลงชื่อโดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ แต่มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอยู่ไม่น้อย ทั้งอ้างมติ กมธ.ป.ป.ช.ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีการประชุม และลงวันที่ล่วงหน้า
แน่นอนว่า ประเด็นความขัดแย้งของคู่ใหญ่ในสภา “ประยุทธ์-เสรีพิศุทธิ์” กำลังกลายเป็นทุ่งสังหารทางการเมือง ที่ต้องจับตาแบบไม่กระพริบ ขบเหลี่ยมเฉือนคมกันทุกเม็ด แต่ไม่รู้ว่า สังคมไทย คนไทยจะได้อะไรจากปมปัญหานี้ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยจะดีขึ้นไหม เศรษฐกิจไทยที่กำลังชะลอตัว จะรอดพ้นจากวิกฤตินี้ไปได้หรือไม่
ด้วยความเคารพ
นายหัวไทร
19 พฤศจิกายน 2562
