เข้าหูบิ๊กบีแล้ว บิดเบือน มั่ว กู้เงินเรียน กยศ.-ไอแบงก์แจง ไม่จริง เปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลามยกหนี้ให้
น่าวิตกกังวลยิ่งต่อการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่มีคลิปวีดีโอชายสูงวัยสามคนออกมานั่งพูด เผยแพร่ไปทั่วในโลกโซเชี่ยล โดยชายคนกลางพูดเพียงคนเดียว ทำนองว่าทำไมเงินกู้ยืม #กยศ.ต้องผ่านธนาคารอิสลาม ทำไมไม่ผ่าน ธ.ออมสิน และมีช่องให้ติ๊กว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นนับถือศาสนาอิสลามจะยกหนี้ให้
ตรวจสอบแล้วชายสูงวัยคนที่พูดเป็นนายทหารนอกราชการ (เกษียณ) ยศนาวาอากาศเอก (พิเศษ) ศิษย์สำนักจานบิน และจากการตรวจสอบข้อมูลที่นำมาพูด ไม่จริงทั้งสิ้น เป็นการบิดเบือน ไม่ทราบเจตนาเพื่ออะไร ศูนย์ fake news ได้ดำเนินการอะไรบ้างหรือเปล่า ไม่ทราบ แต่เรื่องนี้เข้าหู พุทธิพงศ์ ปุณกัณฑ์ รัฐมนตรีดิจิทัล แล้ว
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันนท์ ผู้จัดการเงินให้กู้ยืมเพท่อการศึกษา ขี้แจงว่า ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง กยศ.เป็นหน่วยงานของรัฐ ในกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยจ้างธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยในการบริหารกองทุน ผู้กู้ยืมสามารถเลือกใช้บริการได้ไม่มีการบังคับ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ 6.7 ล้านคน โดยใช้ผ่านธนาคารกรุงไทย 97% ธนาคารอิสลาม 3%
‘ที่มีการระบุว่า ถ้า #เปลี่ยนศาสนา ไม่ต้องจ่ายคืนเงินกู้ ไม่เป็นความจริง เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงเรียนมาให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน’
ด้านธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ชี้แจงระบุว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่คลิปในสื่อออนไลน์ โดยระบุว่า นักเรียนนักศึกษาที่ประสงค์กู้ยืมเงินจาก กยศ. จะต้องกู้ผ่านธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยเท่านั้น รวมทั้งหากผู้กู้ยินยอมเปลี่ยนการนับถือศาสนามาเป็นศาสนาอิสลาม ธนาคารจะดำเนินการยกหนี้ให้นั้น ไม่เป็นความจริง
นายวุฒิชัย สุระรัตน์ชัย กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ขอเรียนชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแม้แต่เรื่องเดียว เนื่องจากปัจจุบันธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นหนึ่งในสองของผู้บริหารจัดการเงินให้กู้ยืมจาก กยศ. ทั้งนี้เพื่ออำนวยให้นักเรียนนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลาม ได้มีทางเลือกในการใช้บริการทางการเงินอย่างถูกต้องตามหลักการที่ศาสนาบัญญัติไว้ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้เป็นภาคบังคับแต่อย่างใด และเป็นไปตามความประสงค์ของผู้กู้ ประกอบกับธนาคารไม่ได้เป็นผู้ให้กู้โดยตรง แต่เป็นเพียงช่องทางในการติดต่อรับจ่ายเงินจากทาง กยศ. ธนาคารจึงไม่ได้มีส่วนได้เสียในการให้เงินกู้ดังกล่าว
นอกจากนั้น ในกระบวนการขอกู้ยืมก็ไม่ได้มีเอกสารหรือข้อความใด ที่ระบุว่าจะได้รับการยกหนี้เมื่อมีการเปลี่ยนศาสนามาเป็นศาสนาอิสลาม ข้อความดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ขอยืนยันว่า ธนาคารดำเนินธุรกิจทางการเงินตามหลักการเงินอิสลาม เพื่อให้ลูกค้าที่เป็นชาวไทยมุสลิม มีทางเลือกในการใช้บริการทางการเงินอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม และธนาคารยังสามารถให้บริการทางการเงินกับประชาชนที่นับถือศาสนาอื่นได้เช่นกัน หากลูกค้าสนใจใช้บริการกับธนาคารเรายินดีให้บริการทุกท่านอย่างเท่าเทียม โดยไม่มีพันธกิจในการเชิญชวนผู้ใช้บริการในการเปลี่ยนศาสนา ข้อความดังกล่าว จึงอาจสร้างความสับสนและความเข้าใจผิดและเกิดความสับสนในบทบาทของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารจึงขอเรียนมาให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน” นายวุฒิชัย (กล่าวทิ้งท้าย)
ส่งข้อมูลให้ ดร ปณิธาน วัฒนายากร ตรวจสอบดูท่านบอกว่า
1. ข้อมูลที่พูดในคลิป ไม่จริงครับ
2. ข้อมูลที่เป็นจริงคือ
2.1 ธนาคารอิสลาม มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่
2.2 ธนาคารตั้งขึ้นเพื่อระดมเงินฝากจากผู้นับถือศาสนาอิสลาม เนื่องจากผู้นับถืออิสลามไม่รับดอกเบี้ย
ธ.อิสลามจึงมีการรับฝากเงินแบบไม่มีดอกเบี้ย แต่เรียกเป็นผลตอบแทน
2.3 ปัจจุบันลูกค้าของ ธ.อิสลาม มีทุกศาสนาครับ
3. กยศ.ปล่อยกู้ผ่าน ธ.กรุงไทย นร. นศ. ต้องเปิดบัญชี ธ.กรุงไทย
4. ปัจจุบันธ.อิสลามให้ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินติดตามทวงถาม นร. นศ. ที่ค้างชำระหนี้
5. การเปลี่ยนศาสนา ไม่ว่าศาสนาใด โดยปกติจะไม่ได้ทำโดยการให้กรอกแบบฟอร์ม หรือบังคับจิตใจ หรือมีสิ่งแลกเปลี่ยนอย่างที่พูดในคลิป
5.1 กรณีผู้ที่จะเปลี่ยนเป็นนับถือศาสนาอิสลามนั้น จะต้องมีความตั้งใจด้วยใจบริสุทธิ์ และมีการเปล่งวาจาต่อหน้าบุคคลที่สองว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์ และศาสดามูฮัมหมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์ (อัลเลาะห์)” เท่านั้น
6. คนที่พูดในคลิปคือ นาวาอากาศเอก(พิเศษ) คนหนึ่ง ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ และเป็นแกนนำศิษย์วัดที่มีการก่อสร้างใหญ่โตมโหฬาร
เป็นการกระทำของแนวร่วมที่ให้ข้อมูลในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ศูนย์ fake news ของกระทรวงดิจิทัล เมื่อทราบเรื่องแล้วไม่ควรนิ่งเฉย เพราะนอกจากนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการบิดเบือนที่ไม่เป็นผลดีต่อชาติบ้านเมือง ฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ควรนิ่งดูดาย ควรติดตามลากคอมาดำเนินการตามกฎหมาย #นายหัวไทร #มากกว่าข่าว
ด้วยความเคารพ
นายหัวไทร
26 พฤศจิกายน 2562
