X

“วิ่งไล่ลุง”ธนาธรลงถนนแล้ว…วีระบุรุษสู้เพื่อคนรุ่นต่อไป นักการเมืองสู้เพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า

สู้ในสภาไม่ดีกว่าสู้บนถนนเหรอ “วีระบุรุษ สู้เพื่อคนรุ่นต่อไป นักการเมืองสู้เพื่อผลเลือกตั้งครั้งต่อไป

“ธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนให้เข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนราษฏร เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ระบอบตัวแทน

แต่ธนาธรอ่านกฎหมายไม่หมด หรืออาจจะตีความกฎหมายไม่แตก หรือมีเจตนาอย่างอื่นไม่ทราบได้ ในวันสมัครรับเลือกตั้งธนาธรยังถือหุ้นในบริษัท วีลัก มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสื่อ แม้ธนาธรจะพยามอธิบายว่า ได้โอนหุ้นให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นแม่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม อีกหนึ่งเหตุผลบอกว่า บริษัท วีลักไม่ได้ผลิตสื่อบ้าง เลิกกิจการไปแล้วบ้าง
แต่เหตุผลของธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญฟังแล้วไม่เชื่อ ไม่มีหลักฐานยืนยัน และที่บอกว่าโอนหุ้นให้แม่เมื่อวันที่ 8 มีนาคมนั้น เป็นแค่การโอนกันภายในครอบครัว แต่ไม่ได้จดทะเบียนการโอนกับกรมทะเบียนการค้า จึงยังไม่มีผลใดๆ

ศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าธนาธรยังถือหุ้นสื่ออยู่ และถือว่าขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ศาลรัฐธรรมนูญจึงพิพากษาให้ธนาธรพ้นจากการเป็น ส.ส. แต่พรรคอนาคตใหม่ก็ส่งธนาธรเข้ามาทำงานในสภา ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณ แต่ธนาธรก็ #ลาออก โดยอ้างเหตุผลว่า เขาไม่อยากให้อยู่ในสภา และเป็นการลาออกจากสภาหลังแม่ทัพนายกองมาชี้แจงงบประมาณปี 2562 และธนาธรก็ยำเละงบกลาโหม รวมถึงเงินนอกงบประมาณ และประกาศเดินหน้างานนอกสภา อ้างเคียงข้างประชาชน

เวทีแรกคือการพูดฝ่ายเดียวบน face book live พร้อมอธิบายสารพัดเรื่องการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และงบประมาณทหาร ตีความง่ายๆ​ ว่ามีเป้าหมายพุ่งตรงไปยังทหาร

ต่อสู้กับคนคนนั้น

ธนาธรบอกว่าเขาไม่อยากให้เราอยู่ในสภา แต่ไม่ได้บอกว่า “เขา” คือใคร และยังบอกว่า “ต่อสู้กับคนคนนั้น”ก็ไม่ได้บอกว่าคนคนนั้นคือใคร พูดลอยๆสร้างความงุนงงสงสัยให้กับประชาชนว่า เขาคือใคร ทั้งๆที่ความผิดพลาดเกิดจนเนื้อมนของตัวเอง และลาออกเอง ไม่มีใครกดดันให้ลาออก

“มีคนมากมายถามผมทั้งทางออนไลน์และตอนลงพื้นที่ ว่าเมื่อไหร่จะลงถนน เค้าพูดกันว่าร่างกายต้องการปะทะแก๊สน้ำตา” คำกล่าวของธราธร

แม้จะตัดสินใจเดินออกจากการมีทุกตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังคงทำกิจกรรมในหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการไปบรรยายตามเวทีต่างๆ ภายใต้คำถามที่ว่ากำลังเตรียมตัวเป็นผู้นำมวลชนนอกสภาหรือไม่

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. “ธนาธร” ได้ไปพูดบนเวทีของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย โดยเวทีในวันนั้นหัวหน้าพรรคได้กล่าวไว้น่าสนใจถึงการเคลื่อนไหวในอนาคต

“เราตั้งพรรคขึ้นมาเพราะพวกเราอยากทำให้ผู้คนกลับมาศรัทธาประชาธิปไตยและสภาอีกครั้ง เราสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบการใช้ ม.44, รณรงค์ให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญ และได้ยื่นร่าง พ.ร.บ. ที่ทำให้กองทัพทันสมัยขึ้น”

วิ่งไล่ลุง

จะใครจัดก็ตามกิจกรรม​ ”วิ่งไล่ลุง”ในเดือนมกราคม แต่ได้ถูกโยงเข้ามาสู่การเมืองแล้ว เมื่อธนาธรหยิบขึ้นมาพูด และโลโก้ที่นำมาใช้วิ่งไล่ลุงก็ไปเหมือนกับโลโก้บริษัทหนึ่งที่เขาทำธุรกิจไม่เกี่ยวกับการเมือง จนกิจกรรมวิ่งไล่ลุงต้องปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ และนี้น่าจะเป็นกิจกรรมบนถนนกิจกรรมแรกที่เป็นกีฬาแต่ถูกนำมาโยงกับการเมือง

เมื่ออำลาจากธุรกิจและประกาศเจตนาลงเล่นการเมือง ตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมามีนโยบายดีๆมากมาย มีแนวคิดแนวทางหลายอย่างน่าสนใจ ธนาธรควรจะไปสู้ในสภาดีกว่าสู้นอกสภา เพราะสู้ในสภา ถ้าชนะก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ แต่สู้นอกสภาไม่รู้จะขนะอย่างไร ขนะแล้วจะได้อะไร มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะการเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นในสภา

หรือเพียงหวังผลสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า หาเสียงกับเด็ก เยาวชน เหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาและได้รับการเลือกตั้งเข้ามาท่วมท้น เกินความคาดหมาย อาจจะเล็งเห็นว่า รัฐบาลง่อนแง่น เสียงปริ่มน้ำ ไม่น่าจะอยู่ได้นาน จนตัองจัดงานเลี้ยงสังสรรค์พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อประสานรอยแยกแก้ปัญหา “สภาล่ม” จึงตั้งเป้าเอาเวลาไปสู้นอกสภาดีกว่าไปหมกตัวอยู่ในสภา

วีระบุรุษเขาสู้เพื่อคนรุ่นต่อไป นักการเมืองสู้เพื่อผลการเลือกตั้งครั้งต่อไป คิดเอาเองนะธราธร จะเป็นวีระบุรุษ หรือแค่นักการเมือง

ด้วยความเคารพ
นายหัวไทร
4 ธันวาคม 2562

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน