นายหัวไทรแนะ 3 ความจริงที่พึงระวัง ประกอบด้วย “ทุนเหนือรัฐ”, “นักการเมืองเลว” และ “ข้าราชการชั่ว” ชี้อย่าอ้างประชาธิปไตยทำลายชาติ
ทุนเหนือรัฐ
เมื่อก่อนกลุ่มทุนทางการเมืองจะเข้าไปสนับสนุนพรรคการเมือง หรือนักการเมือง เพื่อไว้เรียกใช้ในนามที่เขาต้องการเข้าไปลงทุนในโครงการสัมปทานของรัฐ พูดง่ายๆว่ามีนักการเมือง มีพรรคการเมืองเป็นเครื่องมือในการต่อรอง สร้างเงื่อนไข หรืออำนาจที่เหนือกว่า
แต่ปัจจุบันกลุ่มทุนเหล่านี้กระโดดเข้าสู่เวทีการเมืองเอง กำหนดกติกาเอง เล่นเอง เพราะที่ผ่านมาหวังพึ่งนักการเมือง พรรคการเมืองที่เขาสนับสนุนอาจจะ “ไม่ได้ดั่งใจ”จึงกระโดดลงมาเล่นเอง เพราะไหนๆก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว เว้นแต่กลุ่มทุนนั่นมีแผล จึงยังไม่กล้าเข้ามาเต็มตัว ยังแอบๆอยู่ข้างหลัง ชักปาก ชักใยนักการเมือง
กลุ่มทุนเหนือรัฐ เช่น กลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนก่อสร้าง กลุ่มทุนระบบขนส่ง กลุ่มทุนน้ำดื่ม กลุ่มทุนอาหาร รวมถึงกลุ่มทุนสื่อสาร เป็นต้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ททท. จัดงานใหญ่ "วิจิตรเจ้าพระยา 2024" สวยงามตระการตา กระตุ้นการท่องเที่ยวส่งท้ายปีนี้
- "ทีเส็บ" และภาคีเครือข่าย ชวนคนไทยร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจเชียงรายหลังวิกฤตน้ำท่วม
- ครัวคุณต๋อยยกทัพ บุกขอนแก่น จับมือศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่น ขนร้านอาหารชื่อดังนับร้อย มาเสิร์ฟสายกิน 11 วันเต็ม 14 - 24 พ.ย.นี้
- สมาคมกอล์ฟสมุย สนับสนุนอุปกรณ์การทำงานให้ตำรวจ
นักการเมืองเลว
เป็นกลุ่มนักการเมืองที่ไม่ได้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยอะไร แต่จะแอบอ้างตัวเองว่า มีอุดมการณ์ แต่ไม่เคยมีความชัดเจนว่าอุดมการณ์อะไร เป็นกลุ่มคนที่หวังก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้อง เข้าไปก็มีแต่แสวงหาอำนาจ รายได้ ขายตัว ขายจิตวิญญาณ
นักการเมืองเลว จะเข้าสู่เวทีการเมืองด้วยการซื้อสิทธิ์ของประชาชน ใช้เงินสกปรก ที่ได้มาจากการประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย เช่น ค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อนของหนีภาษี เปิดบ่อนการพนัน เลี้ยงมือปืน
นักการเมืองเลวจะทุ่มเงินมหาศาล ซึ่งเป็นเงินสกปรกที่ได้มาอย่างง่ายๆ รวยเร็วๆ จากอาชีพผิดกฎหมาย มากว้านซื้อเสียง เริ่มจากการซื้อหัวคะแนน หัวคะแนนไปซื้อสิทธิ์ประชาชนมาอีกทอด
นักการเมืองเลวจะอ้างประชาธิปไตย แต่การปฏิบัติ คือการทำลายประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตย คือเรื่องของสิทธิ เสรีภาพ ภราดรภาพ ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
ประชาธิปไตย ประชาชนต้องมีสิทธิ และมีเสรีภาพ แม้กระทั้งการออกไปใช้สิทธิก็ต้องใช้สิทธิอย่างเสรี ไม่มีอำนาจอื่นมาจูงใจให้ใช้สิทธิเลือกใครคนใดคนหนึ่ง
อำนาจอื่น อาจจะหมายถึงอำนาจเงิน อำนาจเถื่อน ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย ผมให้จับตาว่า ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีการใช้อำนาจเงินกันอย่างมโหฬาร ผมเริ่มเห็นร่องรอยของนักการเมืองเลว เดินกันขวักไขว่ วิ่งหาหัวคะแนนกันให้พล่าน บางครั้งวิ่งชนกันเอง
เริ่มมีอาชีพใหม่กับการเมือง “อาชีพนายหน้า” หรืออาจจะเรียกว่า “Agency” ทำหน้าที่สรรหาผู้สมัครให้พรรคการเมือง ซึ่งนายหน้าจะเป็นคนในพื้นที่ กว้างขวาง รู้จักคนมาก และรู้จักคนดี ต่อไปนายหน้าก็จะกินหัวคิวจากผู้สมัครจากเงินที่พรรคการเมืองสนับสนุนมา
เวลานี้วงจรของนักการเมืองเลวเริ่มมาเจอกับนายหน้าแล้ว นักการเมืองเลวอาจจะยอมควักจ่ายให้นายหน้าด้วย เพื่อให้เสนอเขาเป็นผู้สมัคร เพราะนักการเมืองเลวมีเงิน และเป็นเงินที่หามาง่ายๆจากอาชีพสกปรก อาชีพสีเทา
เลือกตั้งสมัยหน้าเราจะได้เห็นนักการเมืองเลว กลุ่มคนสีเทาลงสมัครรับเลือกตั้งกันไม่น้อย และบางคนอาจจะชนะการเลือกตั้งจากการใช้เงินสกปรกหว่านซื้อสิทธิประชาชน
ข้าราชการเลว
ถึงเวลาหนึ่งนักการเมืองเลวก็จะเดินทางมาชนกันข้าราชการเลว ซึ่งเป็นกลุ่มข้าราชการที่แสวงหาประโยชน์จากโครงการของรัฐบาล กดขี่ข่มเหงประชาชน สุดท้ายก็มาจับมือกับนักการเมืองเลว แสวงหาความมั่งคั่งร่วมกัน ผลาญงบประมาณของรัฐอันมาจากภาษีของประชาชน และสุดท้ายก็ก้าวเหยียบหัวประชาชนร่วมกัน
เราจะเห็นข้าราชการเลวเดินเชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคม เหมือนกับคนที่มีเกียรติ์ มีศักดิ์ศรี แต่แท้จริงแล้วเขากำลังนั่งอยู่บนก้อนหินโสโครก ถ้าวันไหนนักการเมืองเลว มาเจอกับข้าราชการเลว เขาจะคุยกันรู้เรื่องในที่ลับ
สามองคาพยพนี้ คือ ความเลวร้ายของวงจรอุบาทในเมืองไทย ทุนเหนือรัฐก็จะเป็นกลุ่มทุนผูกขาด เป็นกลุ่มก้อนในสังคมที่มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่กุมอำนาจอยู่เหนือรัฐ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ถ้าสามกลุ่มก้อนนี้สุมหัวกันสมคบคิด ลองคิดดูว่าประเทศนี้จะเกิดอะไรขึ้น
เขียนมาให้คิด สะกิดให้ได้ทบทวนกัน
“อย่าร่วมกันทำลายประชาธิปไตย”
อย่าจับมือกันทำลายชาติ-บ้านเมือง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: