พรรคอนาคตใหม่ จัดการประชุมเพื่อจัดตั้งพรรค โดยมีมติให้ให้ “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นหัวหน้าพรรคฯ พร้อมชูนโยบายทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอนโยบายที่ก้าวหน้า การกระจายอำนาจ ลดความเหลื่อมล้ำ เคารพสิทธิมนุษยชน
วันนี้ (27 พ.ค.61) ที่อาคารยิมเนเซียม 5 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในช่วงเช้าวันนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , นายปิยบุตร แสงกนกกุล พร้อมด้วยผู้ร่วมก่อตั้ง “พรรคอนาคตใหม่” จัดการประชุมเพื่อจัดตั้งพรรค โดยมีสมาชิกพรรคจำนวน 474 คน ลงมติเลือกผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการ เหรัญญิก โฆษก กรรมการบริหารพรรค ฯลฯ และลงมติรับรองข้อบังคับพรรค จัดทำนโยบายของพรรคให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดไว้ โดยบรรยากาศภายในอาคารยิมเนเซียม 5 มีประชาชนเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยมีตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวง ดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานที่จัดประชุม ตลอดจนผู้แทน กกต. เข้าร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ด้วย
โดยผลจากที่ประชุมพรรคอนาคตใหม่มีมติเห็นชอบ ดังนี้ ให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ส่วน น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ , นายชำนาญ จันทร์เรือง , พล.ท.พงศกร รอดชมพู และนายรณวิต หล่อเลิศสุนทร เป็นรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ส่วน น.ส.พรรณิการ์ วาณิช เป็นโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ส่วนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคสายภูมิภาค ที่ประชุมพรรคอนาคตใหม่มีมติให้ นายสุรชัย ศรีสารคาม เป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ (ภาคกลาง) , นางเยาวลักษณ์ ภักดีประภา เป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ (ภาคเหนือ) , นายชัน ภักดีศรี เป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ (ภาคอีสาน) และนายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ เป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ (ภาคใต้)
นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ได้แก่ นายสุนทร บุญยอด เป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ สายเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน , น.ส.วิภาพรรณ วงษ์สว่าง เป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ สายเครือข่ายเยาวชนรุ่นใหม่ , น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ และ นายนิรามาน สุไลมาน เป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคต
ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่จัดตั้งตั้งขึ้น ภายใต้หลัก 3 ประการ ได้แก่ มุ่งมั่นทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอนโยบายที่ก้าวหน้า และการกระจายอำนาจ ลดความเหลื่อมล้ำเคารพสิทธิมนุษยชน ที่เน้นหลักรัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือทหาร พร้อมวางนโยบายการบริหารงานของพรรคเอาไว้จำนวน 11 ข้อ ยกตัวอย่างคร่าวๆ อาทิ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน การสร้างเศรษฐกิจ การพัฒนาการศึกษา ยกเลิกการสร้างรัฐรวมศูนย์ การกระจายอำนาจภายในพรรค และการกำหนดข้อบังคับพรรคที่มุ่งเน้นการสร้างหลักประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น เป็นต้น
ส่วนกิจกรรมในช่วงบ่าย เป็นการประกาศอุดมการณ์และแนวทางการบริหารงานของพรรคอนาคตใหม่ โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวบนเวทีว่า
“ขอขอบคุณทุกๆ คน และทุกๆ กำลังใจที่ร่วมกันสร้างกิจกรรมในวันนี้ ตนเองรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นความภาคภูมิใจในชีวิต ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ได้พูดในสิ่งที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนหลายฝ่ายไม่พร้อมจะรับฟัง อาทิ การไม่เอารัฐธรรมนูญปี 2560 , การไม่เอาอำนาจทหาร แต่ขณะนี้ทั้งหมดกลายเป็นความต้องการของทุกๆ คน ที่แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยยังต้องการการเปลี่ยนแปลง โดยพรรคอนาคตใหม่จะทำให้การเมืองเป็นเรื่องปกติที่มีความสร้างสรรค์ และทำให้การปฏิวัติสังคมเป็นเรื่องของการดำเนินชีวิต
ปัจจุบัน ประชาชนเบื่อหน่ายกับการเมืองที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนกลุ่มน้อย หลานคนถามว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยจะดีขึ้น แต่ก็ไม่มีคำตอบออกมา ส่วนตัวมองว่าโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองนั้นออกแบบมาเพื่อคนกลุ่มน้อยเพียงกลุ่มเดียว ส่งผลให้ประเทศไม่เกิดความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน ประชาชนทุกคนคือคนส่วนใหญ่ที่เสียสละให้คนส่วนน้อย ซึ่งคนส่วนใหญ่ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับนักโทษที่ถูกจองจำ มีสิทธิอย่างเดียวคือการเลือกผู้คุม ฉะนั้น ตนในฐานะหัวหน้าพรรคมองว่า ถึงเวลาที่ต้องบอกว่าพอกันทีกับการเมืองที่เอื้อให้กับคนส่วนน้อย เพราะทุกคนต้องการการเมืองแห่งความหวัง จึงขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อให้มีสิทธิที่พึงมีกลับคืนมาโดยไม่ต้องรอใคร หากความหวังของทุกคนเป็นความหวังเดียวกับตน ก็ขอให้ลุกขึ้นมาสร้างพรรคนี้ให้เป็นพรรคของทุกๆ คน ร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เพื่อส่งต่อสังคมให้ลูกหลาน เพื่ออนาคตใหม่ที่อำนาจเป็นของประชาชน”
ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า
“ส่วนตัวมองว่าจะต้องขีดเส้นแบ่งการเมืองแบบเก่าและแบบใหม่ การเมืองแบบเก่าก็คือ การที่กลุ่มหรือพรรคการเมืองใดใช้อำนาจเงินดูด ส.ส. ใช้เงินซื้อเสียง ไม่สร้างสรรค์ ตลอดจนกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีกัน ไม่คำนึงถึงอุดมการณ์ แต่พรรคอนาคตใหม่จะไม่ทำงานในรูปแบบการเมืองแบบเก่า สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ทั้งนี้ ย้ำว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่สมาชิกพรรคทุกคนจะเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่มีกลุ่มหรือบุคคลใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ และไม่ตั้งอยู่บนความสัมพันธ์แบบเจ้านายลูกน้อง แต่มองสมาชิกพรรคทั้งหมดเป็นหุ้นส่วนกัน และมีสิทธิตัดสินใจร่วมกันมีสมาชิกพรรคในทุกจังหวัด พร้อมเดินหน้าทำการเมืองในระยะยาว ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลงเลือกตั้งเป็นครั้งคราว ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่จะทำงานทางการเมืองทั้งฤดูเลือกตั้งและไม่ใช่ฤดูเลือกตั้ง โดยหวังให้มีอำนาจในสภาเพื่อผลักดันนโยบายของพรรคอนาคตใหม่เพื่อลงไปสู่ประชาชน”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: