“โอปอล์-หมอโอ๊ค” และทนายความ หอบหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ หลังมีแฟนเพจแอบอ้างชื่อ เพื่อขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
วันนี้ (4 มิ.ย.61) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา นักแสดงสาว “โอปอล์ ปาณิสรา อารยสกุล” พร้อมด้วย “หมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล” และคุณสิทธิชัย เพชรโมกุล ทนายความ เดินทางมายังสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เพื่อแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน หลังจากที่มีแฟนเพจแอบอ้างชื่อทั้งคู่ เพื่อขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักในโซเชียลมีเดีย ทำให้ทั้งคู่ได้รับความเสียหาย โดยมี พ.ต.ท.พิษณุพล เดชศรี สารวัตรสอบสวน สน.ทองหล่อ รับแจ้งความ
โดยหมอโอ๊ค สมิทธิ์ เปิดเผยว่า “เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 มิ.ย.61) ได้มีเฟซบุ๊กที่เปิดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก โดยนำชื่อตนและโอปอล์ไปแอบอ้าง ซึ่งพบว่าในเฟซบุ๊กดังกล่าวได้มีการนำรูปของตนไปแอบอ้าง เพื่อหลอกให้ผู้ซื้อเชื่อมั่นในผบิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักดังกล่าว ซึ่งภาพดังกล่าวยืนยันว่าเป็นภาพตัดต่อทั้งหมด ทั้งนี้พบว่ามีคนหลงเชื่อและติดต่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยตนและโอปอล์ได้มีการตักเตือนไปแล้วหนึ่งครั้ง แต่เฟซบุ๊กดังกล่าวก็ยังมีการประกาศขายอาหารเสริมลดน้ำหนักดังกล่าวตามปกติ และที่ตนรับไม่ได้ก็คือการนำภาพของตนที่มีการสวมเสื้อกราวน์แพทย์มาลงโฆษณาอาหารเสริมลดน้ำหนัก ซึ่งตนมองว่าผิดจรรยาบรรณแพทย์อย่างรุนแรง โดยตนขอยืนยันว่าเราสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
การลดน้ำหนักไม่เคยมีทางลัด ตัวช่วยที่ดีที่สุดคือพฤติกรรมของเราเอง การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ยังเป็นปัจจัยในการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพ ฉะนั้น ขอยืนยันเลยว่าไม่มีทางลัดแน่นอน”
โอปอล์ ปาณิสรา เปิดเผยว่า “วันนี้เราสองคนและทนายความได้เดินทางมาแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ จากการพูดคุยกับ พวกเราจะเดินทางไปที่ ปอท. เพื่อแจ้งความในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังจากพบว่ามีการแอบอ้างชื่อของตนและหมอโอ๊คในการขายอาหารเสริมลดน้ำหนัก โดนตนได้รับผลกระทบ เพราะมีหลายคนหลงเชื่อและสั่งซื้อสินค้าดังกล่าว และเข้าใจว่าตนและหมอโอ๊คเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์นี้ ซึ่งจริงๆ แล้วคือไม่ใช่เลย เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พวกเราจึงเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพราะไม่อยากให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดและหลงเชื่อ เพราะหากผู้บริโภคยังซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าวเพราะเข้าใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของเราสองคน แล้วได้รับผลกระทบต่อร่างกาย เราสองคนจะเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียง ยืนยันว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้อง และขอให้ผู้บริโภคหนุดการซื้อสินค้าดังกล่าว หากสินค้าชิ้นไหนที่เป็นของตและของหมอโอ๊คจริงๆ ให้เข้าไปดูในอินสตาแกรมของเรา ส่วนผู้ไม่หวังดีนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถสืบสวนหาผู้ก่อเหตุได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีคนไทยแอบแฝงอยู่ด้วย”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: