นายกรัฐมนตรี วอนอย่าโยงคดี “อดีตพระพรหมเมธี” เป็นคดีการเมืองหรือการรังแกพระ ชี้จะส่งผลให้ตามตัวกลับได้ยากและเกิดเป็นข้ออ้างในการขอลี้ภัย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการเดินทางไปประสานเพื่อขอตัว “อดีตพระพรหมเมธี” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม จากประเทศเยอรมนีว่า “พระพุทธศาสนาและหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่สามารถบิดเบือนได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผิดหรือถูกอยู่ที่ตัวคน ซึ่งพระสงฆ์นอกจากมีกฎหมายทั่วไปแล้วยังมี พ.ร.บ.สงฆ์ควบคุมอีกด้วย ส่วนเรื่องคดีความเป็นเรื่องของกระบวนการจะถูกหรือผิดก็เป็นการกระทำของบุคคลจึงต้องแยกแยะให้ออก ซึ่งการที่รัฐบาลเข้าไปดำเนินการเรื่องเงินทอนวัด เพราะมีการร้องเรียนมาจำนวนมาก จึงต้องพิสูจน์ตามกระบวนการ ไม่ใช่หนีหรือไม่ยอมรับ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำลายพุทธศาสนา แต่ต้องทำให้ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวอีกว่า “วันนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมมือและประสานงานกันอยู่ตลอดเวลา จึงขอให้ทุกฝ่ายอย่าโยงเป็นคดีการเมือง หรือมองว่ารัฐบาลรังแกพระ เพราะเวลาหนีคดี ก็จะตามตัวกลับมายาก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับกติกาและกฎหมายของประเทศ”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: