X

เวรกรรม หรือความล้มเหลวกันแน่ สำหรับทีมชาติอังกฤษ

ถ้าพูดถึงฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ แฟนบอลในประเทศไทยก็คงจะชื่นชมอังกฤษอยู่ไม่น้อย เพราะในประเทศไทยนิยมดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ซึ่งนำไปสู่กานชื่นชอบทีมชาติอังกฤษอีกด้วย และถ้าหากลองย้อนไปดูตัวผู้เล่นของทีมชาติอังกฤษในช่วงหลายปีหลัง

ต้องบอกว่ามีแต่นักเตะระดับซุเปอร์สตาร์ทีั้งนั้นไล่ตั้งแต่ เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เเฟรงค์ แลมพาร์ด, ไมเคิล โอเว่น, หรือแม้กระทั่ง เวย์น รูนีย์ และยังมีอีกมากมายที่ไม่ได้พูดถึง ซึ่งต้องบอกว่าผู้เล่นชุดนี้เป็นระดับเวิลด์คลาสก็ว่าได้ แต่คำถามคือทำไมอังกฤษถึงไม่ประสบความสำเร็จบนเวทีระดับนานาชาติเลย

นับตั้งแต่ลูกยิงที่ยังไม่ข้ามเส้นประตูของเจฟฟ์ เฮิร์สต ถูกตัดสินให้เป็นประตูชัยส่งอังกฤษให้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 บนแผ่นดินตัวเอง ซึ่งเป็นชัยชนะเหนือคู่ปรับตลอดกาลอย่างเยอรมณี นับตั้งแต่วันนั้นทีมชาติอังกฤษก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในฟุตบอลระดับนานานชาติอีกเลย

ไปได้ไกลสุดอย่างดีก็แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย และหลายๆครั้งที่อังกฤษต้องกระเด็นตกรอบอย่างน่าเจ็บใจ ซึ่งไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะผลกรรมที่พวกเขาได้ก่อไว้กับทีมชาติเยอรมันหรือไม่ ในฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก อังกฤษก็ต้องจบเส้นทางของตัวเองไว้แค่รอบควอเตอร์ไฟนอล

ด้วยน้ำมือของดิเอโก้ มาราโดน่า และเกมนัดดังกล่าวถือเป็นตำนาน”แฮนด์ ออฟ ก๊อด” เมื่อมาราโดน่ากระโดดขึ้นไปใช้มือปัดบอลเข้าประตูอังกฤษ ใส่สกอร์ให้อาร์เจนติน่า ส่งอังกฤษกับบ้านชนิดที่ว่าทั้งผู้เล่นและแฟนบอล”ทรีไลออน”น้ำตานองกันทั่วแผ่นดิน

และก็เป็นอาร์เจนติน่าอีกครั้งในฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส โคจรมาพบกับขุนพล”ทรีไลออน”และดับฝันการเป็นแชมป์โลกของอังกฤษลงอีกครั้ง แต่คราวนี้เดวิด เบ็คแฮม ตกเป็นจำเลยสังคมทันที เมื่อเบ็คแฮม จงใจยกขาขึ้นมาสกัดขาดิเอโก้ ซิมิโอเน่ ล้มลงไป และตนเองก็ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม

นัดนั้นอังกฤษพ่ายให้กับอาร์เจนติน่า และล่วงตกรอบไปอย่างน่าเจ็บใจ เบ็คแฮมกลายเป็นเทวดาตกสวรรค์เพราะแฟนบอลอังกฤษตีตราว่าเขาคือผู้ที่ทำให้อังกฤษแพ้ในนัดนั้น โดยเขาต้องรับบทผู้ร้ายอยู่หลายปี จากการแข่งขันในระดับสโมสรกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมลีกไม่ว่าจะไปแข่งที่ไหนบนแผ่นดินอังกฤษ เบ็คแฮมจะถูกโห่ใส่เสมอ

กระทั่งฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ขุนพล”ทรีไลออน” โคจรมาพบกับคู่ปรับเก่าอย่างเยอรมณี ที่พวกเขาเคยทำแสบใส่ไว้ในปี 1966 คราวนี้ เหมือนเวรกรรมตามมาสนองอังกฤษเต็มๆ เมื่อลูกยิงไกลของแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เข้าประตูอย่างขาวสะอาด ถูกผู้ตัดสินปฏิเสธไม่ให้ประตู

ซึ่่งถ้าอังกฤษได้ประตูนั้นพวกเขาจะไล่ตามตีเสมอมาเป็น 2-2 และจะกลับสู่เกมอีกครั้ง แต่เมื่อไม่เป็นเช่นนั้นบอลก็เริ่มเสียทรงโดนเยอรมันเดินหน้าบี้เข้าใส่อย่างหนักและเสียเพิ่มอีก 2 ประตู ก่อนจะตกรอบไปด้วยสกอร์ขาดลอย 4-1 ซึ่งก็ต้องตามดูว่าฟุตบอลโลกหนนี้อังกฤษจะไปได้ไกลสักแค่ไหน

 

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน