นักฟุตบอลเยาวชน และโค้ช 13 คน หายตัวในถ้ำหลวง จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาตัว แต่ยังไร้วี่แวว ผ่านมาแล้วถึง 2 วัน โดยก่อนหน้านี้มีเหตุคล้ายกันเมื่อปี 59 ชายนักท่องเที่ยวหายตัวลึกลับภายในถ้ำ แต่สุดท้ายปลอดภัย
การหายตัวไปอย่างลึกลับของ นักฟุตบอลเยาวชน และโค้ช รวม 13 ชีวิต ที่ ถ้ำหลวง ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย สร้างความตกใจให้กับคนไทย หลายคนกำลังเอาใจช่วยให้ทีมค้นหาเจอตัวในเร็ววัน แต่ทั้งนี้ การหายตัวไปในถ้ำดังกล่าว เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เมื่อปี 2559
โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ส.ค.59 มีชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้า จำหน่ายสินค้าบริเวณปากถ้ำ แจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย ลักษณะคล้ายชาวจีน หรือญี่ปุ่น อายุประมาณ 50-60 ปี ปั่นจักรยานมาฝากไว้ที่บริเวณปากถ้ำ และฝากไว้กับร้านขายอาหารตามสั่ง โดยบอกว่าจะเข้าไปเที่ยวในถ้ำเพื่อนั่งสมาธิ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะสะพายเป้หายเข้าไปนานถึง 7 วัน ก็ยังไม่กลับออกมา ชาวบ้านจึงแจ้งหน้าที่ให้ช่วยออกตามหา
ลักษณะของถ้ำในช่วงแรกคล้ายกับห้องโถงใหญ่ เมื่อเดินลึกเข้าไปจะเริ่มมืดจนมองไม่เห็นชัดจนถึงมืดสนิท และลึกเข้าไปด้านในประมาณ 2 กม. มีลำธารน้ำไหลเชี่ยวตลอดเวลา ซึ่งเหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว
หลังจากนั้น 3 เดือนให้หลัง ราวปลายเดือน ต.ค.มีรายงานว่า พบชายคนดังกล่าว ชื่อ นายสุทธิโรจน์ พลยุทธศาสตร์ เป็นอดีตอาจารย์สอนพิเศษภาษาจีน ในมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งในประเทศไทย ได้เข้าไปในถ้ำเพื่อนั่งสมาธิ และเกิดเหตุน้ำท่วม จึงต้องย้ายไปตามจุดต่างๆ เพื่อหนีน้ำ กระทั่ง อาหารและน้ำที่นำติดตัวไปหมด จึงตัดสินใจหาทางออกมา
ส่วนกรณี นักฟุตบอลเยาวชน และโค้ชทั้ง 13 ชีวิตที่หายไป ได้มีการค้นหาจากเจ้าหน้าที่ รวมถึงหน่วยซีล เข้ามาเสริมปฏิบัติการค้นหาในครั้งนี้ ตั้งแต่คืนวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ย้อนรอยเหตุการณ์
วันที่ 23 มิ.ย. 61 เจ้าหน้าที่วนอุทยาน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำ ได้รับแจ้ง มีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าปากถ้ำ 1 คัน ภายในถ้ำอีก 11 คัน ข้างจักรยานมีถุงเท้า รองเท้าเตะ ฟุตบอล โดย นายจันทร์ ทาตุการ ประธานนักเตะฟุตบอล จัดทีมเข้าค้นหาภายในถ้ำ เข้าไปได้ระยะ 3 กิโลเมตร เริ่มมีน้ำทะลักออกมา ทำให้เริ่มไม่มีอากาศหายใจ ทำให้ทีมค้นหาเริ่มถอยออกมา
เวลา 24.00น. ทีมกู้ภัย จำนวน 22 คน พร้อมชุดดำน้ำ เข้าค้นหาอีกครั้งภายในถ้ำ
เวลา 03.00น.นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทราบข่าว จึงเดินทางมาสั่งการด้วยตัวเอง
เวลา 05.00น.ทีมกู้ภัยค้นหาทำการล่าถอย เนื่องจากน้ำในถ้ำกระแสแรง รอให้น้ำลดจะทำการเข้าค้นใหม่อีกรอบ
วันที่ 24 มิ.ย.61 เวลา 9.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและรักษาความสงบเทศบาลแม่สาย พร้อมด้วยชาวบ้านที่เคยเข้าไปภายในถ้ำหลวง แบ่งกำลังค้นหาออกเป็น 7 ชุด 15 คน รวมไปถึงชาวต่างชาติที่เคยเข้าไปสำรวจภายในถ้ำหลายครั้ง ออกค้นหาอีกครั้ง
เวลา 12.00น.นายนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ทีมชุดเจ้าหน้าที่ และชาวบ้าน ที่มีความพร้อม นำอาหารและอุปกรณ์เพิ่ม เช่นชุดวิทายุสื่อสาร ชุดยกเครื่องปั่นไฟ ชุดส่งเสบียง ลงเข้าไปสมทบ
เวลา 13.15 น. อดีตเจ้าหน้าที่ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน คาดว่า เด็กทั้ง12คน ได้เข้าไปช่วงน้ำแห้ง พอฝนตกระดับน้ำภายในถ้ำสูงจึงหนีขึ้นไปตามซอก ซึ่งภายในถ้ำมีความกว้าง 4 ม. ลึกกว่า 10 กม. และมีทางแยกด้านใน เจ้าหน้าที่พบร่องรอยนิ้วมือนิ้วของเด็กติดโคลน คาดว่าทุกคนยังมีชีวิตอยู่
เวลา 15.00 น.ทีมชุดประดาน้ำเข้าไปในถ้ำ 21 คน รวมถึงทีมค้นหาอีก 6 คน นำอาหารเครื่องดื่มเข้าไปสมทบ
เวลา 19.48 น.ทีมประดาน้ำ 21 คน ออกมาจากถ้ำ โดยไม่พบเด็กทั้ง 13 คน เนื่องจากทีมค้นหาประสบปัญหาเรื่องอากาศหายใจ และเครื่องสูบน้ำปล่อยควันออกมา อีกทั้งมีการจุดเทียนทำให้แสบตา
ล่าสุด วันที่ 25 มิ.ย.61 กองทัพเรือได้ส่งหน่วยซีลที่มีความเชี่ยวชาญทางน้ำ เดินทางมาร่วมปฎิบัติการณ์ในครั้งนี้ จำนวน 18 นาย
เวลา 02.30-03.30 น. ประชุมทีมค้นหา
เวลา 04.00 น. หน่วยซีล เข้าประเมินสถานการณ์ ร้องขออุปกรณ์ค้นหา
เวลา 06.00 น. หน่วยซีลชุดค้นหาภายในถ้ำประเมินสถานการณ์ ต้องนำเข้าอุปกรณ์ขุดทราย ที่ปิดตามปากอุโมงขนาดเล็ก
จนถึงขณะนี้ ปฎิบัติการค้นหายังคงดำเนินอยู่
