ทีมค้นหา 13 นักเตะ หมูป่าอะคาเดมี่ พบโพรงใหม่กว้าง 70 ม.ประสาน ฮ.โรยตัวสำรวจ ด้าน ผบ.ตร. นำทีมสำรวจ 3 ปล่องที่พบเมื่อหวาน มีการหย่อนกล่องยังชีพพร้อมปากกา-กระดาษ หวังให้เด็กเขียนตอบกลับ ขณะที่ ทีมขุดเจาะเกิดดราม่าข้อกฎหมายกับรองศรีวราห์
จากกรณี 13 เยาวชน ทีมฟุตบอลหมู่ป่าอะคาเดมี สูญหายในถ้ำหลวง จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. นับถึงวันนี้เป็นเวลานานถึง 6 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่พบวี่แววของคนเหล่านี้ ล่าสุดวันนีั้ ทีม ตชด. ได้พบโพรงใหม่อีกหนึ่งแห่ง ซึ่งกว้างพอสมควร ประเมินเบื้องต้นลึกราว 70 ม. มีค้างคาวบินเข้า-ออก ได้ยินเสียงน้ำ จึงได้ประสานขอเฮลิคอปเตอร์โรยตัวเข้าสำรวจพื้นที่
วันที่ 29 มิ.ย.61 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่่ตำรวจตระเวนชายแดน เดินเท้าขึ้นภูเขาไปสำรวจปากปล่องถ้ำที่ค้นพบจำนวน 3 ปล่องก่อนหน้านี้ เพื่อหาเส้นทางเชื่อมเข้าไปภายในถ้ำหลวง ด้วยวิธีการโรยตัวค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13 ชีวิต
ด้าน พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ กล่าวว่า มีการหย่อนกล่องช่วยเหลือ 20 กล่อง ลงไปในปล่องถ้ำต้นน้ำให้ลอยตามกระแสน้ำ โดยมีแผนที่มาร์คจุดไว้ เพื่อให้ลอยน้ำกลับออกมา และเข้าทำการช่วยเหลือ
ซึ่งภายในกล่องประกอบด้วย อาหาร ปากกา โทรศัพท์มือถือ แผนที่ถ้ำฯลฯ พร้อมกระดาษเขียนข้อความว่า “ถ้าได้รับแล้วขนมกินได้เลย และกรุณามาร์คจุดที่อยู่ กันตอนนี้ ใส่แผนที่ลอยน้ำกลับมาให้ด้วย เจ้าหน้าที่จะรีบไปรับโดยเร็วที่สุด”
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผบ.ตร. ได้เตือนทีมขุดเจาะเกี่ยวกับอำนาจตามกฎหมาย ในการขุดเจาะในเขตวนอุทยานฯ มีการประสานกรมทรัพยากรธรณี ด้วยหรือไม่ ทางทีมขุดเจาะจึงตอบว่า เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็อยู่ในพื้นที่มีการประสานงานกันแล้ว โดยกรณีนี้มีการยกเว้น มาตรา 4 ให้กับทีมช่วยเหลือ
ด้าน นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็น ระบุว่า “การเจาะถ้ำหรือกระทำการอื่นใดในเขตอุทยานหรือป่าไม้ แม้จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยาน หรือ พ.ร.บ.ป่าไม้ แต่ถ้ากระทำเพื่อช่วย 13 ชีวิต ก็เป็นการกระทำความผิดด้วย “ความจำเป็น” เพราะเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึง และไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ เมื่อภยันตรายนั้นตน มิได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะความผิดของตน
ถ้าการกระทำนั้น ไม่เป็นการเกินสมควรแต่เหตุแล้ว ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67 ทุกท่านที่กำลังช่วยน้องๆ ทำไปเถอะครับ ไม่ต้องดูหรอกว่ากฎหมายจะว่าอย่างไร ชีวิตน้องๆ เหล่านั้นสำคัญกว่ามาบังคับใช้กฎหมายในยามนี้”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: