แม่ฮ่องสอน – กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องมือสำคัญลุยฝ่าอุปสรรค์จากการเดินทางเข้าพื้นที่ สมทบกับกำลังหลายฝ่ายที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุร่วมค้นหาผู้สูญหาย จากน้ำป่าไหลหลาก-โคลนถล่ม ภายใน section 1 ศูนย์อพยพผู้หลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบ บ้านแม่ละอูน ต.แม่สามแลบ อ.สบมีเมย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีบ้านเรือนพังหลายหลัง มีผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดจังหวัดแม่ฮ่องสอนประกาศให้บ้านแม่ละอูนเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติดินโคลนถล่มแล้ว
18 กันยายน 2561 พ.อ.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม ภายใน section 1 ศูนย์อพยพผู้หลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบ บ้านแม่ละอูน จนถึงขณะนี้ทีมกู้ภัยจากกองกำลังนเรศวร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่17 , หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่36 หน่วยพัฒนาเคลื่อนที่36 สำนักงานทหารพัฒนา พร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน แพทย์สนามจากรพ.ค่ายวชิรปราการจำนวน1ชุดปฏิบัติการและชุดแพทย์สนามจากรพ.ค่ายกาวิละ เป็นกำลังชุดแรกที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุ ยังให้ความช่วยเหลือและคันหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยอุปสรรค์หลายอย่างโดยเฉพาะเครื่องมือ และการเดินทางทำให้การปฏิบัติไม่คล่องตัว
ขณะที่นายเรืองฤทธิ์ ผลดี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผย เช้าวันนี้ 18 กันยายน. นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง เร่งเข้าพื้นที่เกิดเหตุ สนับสนุนการกู้ภัยและค้นหาผู้สูญหาย หลังเดินทางถึงศูนย์พักพิงฯ แม่ละอูน เวลาประมาณ 19. 30น. ของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา
ซึ่งการค้นหาต้องหยุดชั่วคราวในคืนที่ผ่านมา เพราะไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง และรถสนับสนุIนไฟฟ้าไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้
เนื่องจากทางชันและลื่นมาก การช่วยเหลือจากหน่วยอื่นยังเต็มไปด้วยอุปสรรค เพราะศูนย์ฯอยู่ห่างจากตัว อ.แม่สะเรียงถึง 70 กม. เส้นทางการเข้าถึง 30 กม.หลังต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น ทางแคบเป็นช่วงๆ ไหล่ทางเป็นเหวลึก
โดยวันนี้ (18 ก.ย.2561) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการสถานการณ์วิกฤติ ERT พร้อมด้วยเครื่องจักรกลฯ เดินทางไปสนับสนุนการกู้ภัยเหตุดินโคลนถล่ม ศูนย์อพยพผู้หลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบ บ้านแม่ละอูน
ภัยพิบัติครั้งนี้ นายผอบ บินสะอาด นายอำเภอสบเมย ได้รับรายงานด่วนจากเจ้าหน้าที่ อส.ที่ประจำอยู่ที่ศูนย์อพยพผู้หลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบ บ้านแม่ละอูน ตำบลแม่สามแลบ ช่วงค่ำวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมาว่า เกิดฝนตกหนักพิบัติในพื้นที่นานกว่า 1ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากมีน้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มทับบ้านเรือน บริเวณพื้นที่ section 1 ปีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและสูญหายอีกจำนวนหนึ่ง.
เช้าวันที่ 17 กันยายน นายอำเภอสบเมย พร้อมด้วยกำลัง อส.และทหารจาก กองบัญชาการทหารพัฒนาบ้านคอนผึ้ง (นพค.36) เข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือค้นหาผู้สูญหายวันเดียวกันนี้เวลา 19.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17(ฉก.ร.17) เปิดเผยว่าสถานการณ์ มีผู้สูญหาย 11 ราย พบแล้ว 4 ราย จำนวนนี้เป็นผู้บาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ยังคงสูญหายอีก 7 ราย
ล่าสุด ปภ.แม่ฮ่องสอนสรุปยอดผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และบาดเจ็บ จากเหตุครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อเด็กหญิงอสะเลอวิน อายุ 2 ปี /สูญหาย 7 ราย คือ นายแห่เกลอทู อายุ 28 ปี , เด็กชายแอคริสเซ อายุ 3 ปี , นางลอยบือ อาย 50 ปี , เด็กหญิงทูลอยวา อายุ 12 ปี , เด็กหญิงพอเหนมู อายุ 10 ปี , เด็กหญิงพอเส่คือ อายุ 12 ปี และเด็กชายทูซี อายุ 11 ปี
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 11 ราย คือ นายเมียโพ อายุ 60 ปี , นายลาลอยมู อายุ 20 ปี , นางสาวฉะลอยซี อายุ 16 ปี , นางสาวมูลอยพอ อายุ 18 ปี , นางพอคริสวา อายุ 28 ปี , นายซอซิเล อายุ 23 ปี , นางสาวหมื่อซอ อายุ 15 ปี , นายแฮเมีย อายุ 27 ปี , นางสาวเดหมื่อ อายุ 18 ปี , นายแอคริสมู อายุ 15 ปี และนางเซอทิพอ อายุ 54 ปี
และมีบ้านเรือนเสียหาย 6 หลัง เสียหายเล็กน้อย 8 หลัง สิ่งปลูกสร้าง เสียหาย 5 หลัง
นายสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประกาศให้บ้านแม่ละอูนเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติดินโคลนถล่มแล้ว ซึ่งวันนี้ นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางการค้นหาผู้สูญหายทั้ง 7 ราย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ประเมินว่าหากในบริเวณดังกล่าวไม่พบร่างของผู้สูญหาย ก็มีโอกาสที่ผู้สูญหายจะถูกพัดตกลงไปในแม่น้ำยวม โดยในวันนี้จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งการกระจายกำลังค้นหาเพิ่มเติมด้วย
กว่า 30 ปี ที่ชาวบ้านเหล่านี้เริ่มมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นจากภาวะการสู้รบ ภายใต้ศูนย์อพยพผู้หลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบ บ้านแม่ละอูน ปัจจุบันสำรวจข้อมูลพบว่ามีผู้อพยพอาศัยประมาณ1,200 ครัวเรือน ประชากรรวมกว่าหนึ่งหมื่นคน หลังจากนี้จังหวัดและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันหาแนวทาง และมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ลดโอกาสเสี่ยงต่อการสูญเสียจากธรรมชาติ เนื่องจากภูมิประเทศหลายแห่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความเปราะบางและสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะอุทกภัยและวาตภัย
